Thursday, August 22, 2013

Resident evil 6


   

Game Ps3 Resident evil 6

Resident evil 6


บนถนนของเมืองแห่งนึงที่แสนวุ่นวายจากฝูงซอมบี้และนองไปด้วยเลือด ร่างของ Leon และ Helena กระเด็นด้วยแรงระเบิดจน Helena ได้รับบาดเจ็บ Leon ตั้งสติและพยายามลากตัว Helena เข้าไปหลบในจุดที่ปลอดภัยในซากตึก พยุง Helena เข้าไปด้านในสิ่งแรกที่ต้องทำคือหายามารักษาอาการบาดเจ็บให้เธอก่อน เดินไปสำรวจที่ซากรถจะพบต้นสมุนไพร แต่จะกินสดๆเลยเหมือนทุกครั้งไม่ได้แล้ว Hunnigan เจ้าหน้าที่ประสานงานของ FOS จะติดต่อมาหา Leon ให้เขาพยายามออกไปในที่ที่ปลอดภัยโดยด่วน จากนั้นเธอจะสอนวิธีการผสมสมุนไพรใส่ตลับ Health Tablet 

จากนั้นนำไปให้ Helena แต่ขณะนั้นซอมบี้ตัวแรกของเกมก็ออกมาให้เรียนู้ระบบการต่อสู้ด้วยมือเปล่าด้วยการใช้ปุ่ม RT ในกรณีกระสุนหมด เมื่อรักษา Helena จนแข็งแรงดีแล้วก็ร่วมกันลุยเข้าด้านในได้เลย ซึ่งเราจะสามารถสั่งคู่หูด้วยคอมมานน์ต่างได้ด้วย

Hunnigan  จะคอยแจ้งพิกัดให้ตลอดทางซึ่งสามารถกด LB เพื่อดู Guild line นำทางได้ตลอด จากนั้น Leon จะเดินทางไปยังหอคอยของตึกของหน่วย BSAA เพื่อหาผู้รอดชีวิตก่อน เมื่อออกมาจากซากตึกจะพบความวุ่นวายบนท้องถนนอย่างบ้าคลั่งของพวกซอมบี้ เอาตัวรอดลุยเข้าไปข้างหน้า วิ่งหนีแรงระเบิดไปจนถึงคอปเตอร์ของทหาร แต่ในขณะเดินทางกลับต้องโชคร้ายที่ดันมีซอมบี้เกาะมาด้วยทำให้เฮลิคอปเตอร์ต้องตกลงที่กลางเมือง โชคดีที่ Leon และ Helena ไม่บาดเจ็บมาก ทั้งคู่เดินต่อจนถึงตึกเป้าหมาย เมื่อเข้าไปด้านในจะพบศพของคนในหน่วย BSAA ตายกันเกลื่อน ทันใดเท้าขนาดใหญ่ของผู้ไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏให้เห็น Leon รู้ทันที่ว่ากำลังจะเจอศึกใหญ่แน่ๆ

Leon s. Kennedy Campaign

เส้นทางการเดินทางของ Leon นั้นจะมีบรรยากาศในแบบ Biohazard ยุคแรกๆคือทั้งมืดและน่ากลัวจากสิ่งไม่คาดฝันที่จะพุ่งเข้ามา อันตรายจากซอมบี้จำนวนมากในสถานที่ต่างๆจึงเป็นงานหลักที่ Leon ต้องเผชิญ แต่เหล่าศัตรูของ Leon ที่เป็นซอมบี้ที่เชื่องช้าไม่ได้รวดเร็วบ้าสงครามเหมือนแบบ J’avo ของ Chris จึงสามารถใช้การเตะต่อยเอาตัวรอดแบบไม่ได้เปลืองกระสุนได้อย่างไม่ได้เรียกว่าลำบากอะไรนัก รวมทั้งเพื่อนร่วมทางอย่าง Helena ก็ดุเด็ดเผ็ดมัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างดีอีกต่างหาก

Leon Chapter 1: Gone to Hell

29 มิ.ย 2513…. ประธานาธิบดี อดัม เบนฟอร์ด ต้องการประกาศให้โลกรับรู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์ของการระบาดของเชื้อไวรัสในเมือง Raccoon City ในงานสมนาที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัย Ivy University ในเมือง Tall Oaks ในสหรัฐอเมริกา แต่ก็สายเกินไป เชื้อไวรัสร้ายได้ระบาดรุกคืบเข้ามาถึงที่นี่อย่างรวดเร็วจนเกินใครจะคาดคิดทำให้ ประธานาธิบดี อดัม เบนฟอร์ด ต้องติดเชื้อจนกลายเป็นซอมบี้ไปในที่สุด Leon S. Kennedy สายลับขององค์กร DSO (Division of Security Operation) ในฐานะลูกน้องและพยานคนสำคัญในคดีของเมือง เมือง Raccoon City จำใจต้องสังหาร ประธานาธิบดี อดัม ที่กลายเป็นซอมบี้ก่อนที่มันจะเข้าไปขย้ำ Helena Harper สายลับของ DSO รุ่นน้อง อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ และบังเอิญว่า Helena เธอรับรู้ความลับบางอย่างเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสที่รุกคืบเข้ามาถึงยัง เมือง Tall Oaks แห่งนี้ แต่ก่อนจะคุยกันเรื่องนี้ทั้งคู่ต้องหนีออกจาก มหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้แห่งนี้เสียก่อน …

จากนั้น Hunnigan ก็ติดต่อมาให้ Leon และ Helena รีบเดินทางออกจากเมืองที่กำลังปั่นป่วนโดยให้ไปที่โบสถ์ของเมืองที่เธอได้รับข่าวมาว่ามีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่มากที่สุด ระหว่างทางออกจากตึกจะพบชายคนนึงที่กำลังหวาดกลัวที่ลูกสาวของเขาหายไป Leon จึงรับปากจะช่วยค้นหา เดินตามทางเข้าด้านในจนพบ Liz ลูกสาวของเขาในห้องในสภาพบาดเจ็บ ช่วยพยุงเธอเข้ามาจนถึงลิฟต์ แต่ Liz ก็ติดเชื้อจนกลายเป็นซอมบี้เข้าทำร้ายทุกคนจน Leon ต้องฆ่าเธอทิ้ง เมื่อลิฟต์ลงมายังชั้นจอดรถจะพบพวกซอมบี้ทั้งในและนอกอาคารมากมายจนทั้งคู่ต้องหนีเข้าไปอีกทางหนึ่ง เพื่อหาทางออกทางด้านหน้า ขึ้นบันไดไปชั้นบนตามทางซอมบี้มากมายจะเข้ามาก่อกวนตลอดทาง เมื่อจัดการพวกซอมบี้ลงได้ก็จะได้กระสุนปืน หรือ Skill Point มาเป็นการตอบแทน

จากนั้นลุยออกไปจนถึงประตูทางออกด้านหน้าแต่จะพบว่ามันล็อกเปิดไม่ได้ Helena จึงให้ย้อนกลับไปเข้าตึกรักษาความปลอดภัยก่อน เข้าไปจนถึงประตูห้องควบคุมในตอนเปิดประตูสัญญาณเตือนภัยเกิดดังขึ้นมาทำให้ฝูงซอมบี้มากมายแห่กันเข้ามา พยายามต้านพวกมันเอาไว้จนกว่า Helena จะแก้ไขจนเปิดประตูเข้าไปด้านในได้สำเร็จ เข้าไปเก็บ Campus Keycard ด้านในมาแล้วลุยย้อนกลับไปที่ประตูหน้า ลุยฝูงซอมบี้ออกไปที่รถตำรวจที่จอดอยู่ด้านหน้าให้ได้ เมื่อ Leon หากุยแจจนเจอและขับรถออกไปได้แล้ว แต่ก็ดันไม่วายถูกซอมบี้โจมตีจนรถคว่ำอีกจนได้ ทั้งคู่จึงไม่มีทางเลือกที่ต้องหนีลงท่อระบายน้ำที่ทั้งมืดและอันตรายกว่าบนถนนมากมายนัก

ขณะเดินทาง Leon จะยังอดคิดถึงการตายของ ประธานาธิบดี อดัม ที่เหมือนเป็นทั้งหัวหน้าและเพื่อนที่ไว้ใจได้ที่สุดของเขาอยู่ตลอด ในท่อระบายนำจนถึงทางรถไฟใต้ดินจะค่อนข้างมืดมากแถมยังทั้งอันตรายจากทั้งฝงซอมบี้และรถไฟที่วิ่งไปมาอีกด้วย ลุยซอมบี้เข้าไปตามทางรถไฟใต้ดินจนถึงโบกี้รถไฟที่จอดปิดทางเข้าอยู่ Leon จึงให้ Helena ปีนขึ้นไปด้านบนและเปิดออกจากทางด้านในให้ไปต่อ ลุยเข้าไปจนถึงชานชลาจนออกมาที่ถนนในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายอีกครั้ง ลุยข้ามฝากถนนเข้าไปยังร้าน Modern Red และทะลุไปตามบ้านของชาวเมือง เก็บกุญแจที่ศพมาไขประตูหลังบ้านออกไป เก็บปืน Shotgun แล้วลุยออกไปตามถนนจนถึงปั๊มน้ำมัน จะพบกลุ่มผู้รอดชีวิตกำลังโดนฝูงซอมบี้ทำร้ายอยู่ เข้าไปช่วยพวกเขาและยิงน้ำมันให้ปั๊มระเบิดกันพวกซอมบี้ออกไปซะ จนตำรวจมาช่วยชี้ทางหนีให้ เข้ามาในบ้านพักซึ่งเต็มไปด้วยผู้รอดชีวิตมากมาย ในขณะที่ฝูงซอมบี้ก็รุมเข้ามามากมาย พยายามช่วยกันจัดการพวกมันให้หมด จนสามารถปิดชัตเตอร์หน้าต่างทั้งหมดได้ ขึ้นไปชั้นบนต่อ จัดการซอมบี้อ้วนและฝูงซอมบี้มากมายที่บุกเข้ามาจากทุกทิศทุกทางให้หมด แล้วอออกทางระเบียงมาที่ถนนอีกฝากจะมีตำรวจขับรถบรรทุกมารับทุกคน พยายามจัดการซอมบี้อ้วนที่ขวางทางออกให้พ้นจากหน้ารถแล้วทุกคนก็จะหนีออกจากที่นี่พ้น Helena จะบอกให้ Leon มุ่งหน้าไปที่โบสถ์ ซึ่งเธอมีบางอย่างให้เขาดู และจะบอกทุกอย่างเกี่ยวกับไวรัสที่เกิดระบาดอยู่ตอนนี้เมื่อถึงที่นั่นแล้ว

ระหว่างทาง Hunnigan ก็ติดต่อมาบอกข้อมูลล่าสุดกับ Leon และ Helena ว่ามีองค์ที่แจ้งความรับผิดชอบต่อการระบาดของไวรัสจนคนมากมายกลายเป็นซอมบี้แล้ว ชื่อของมันคือ Neo Umbrella ชื่อนี้ทำให้ Leon ถึงกลับตะลึง หรือ เมือง Tall Oaks จะมีชะตากรรมเดียวกับ เมือง Raccoon City อีกแล้วนั่นคือทั้งหมดที่ Leon เริ่มวิตกกังวลขึ้นมาทันที …


Leon Chapter 2: Buried Secrets

ระหว่างการขับรถเดินทางของ Leon , Helena กับพวกผู้รอดชีวิตจำนวนหนึ่ง รถขับไปชนซอมบี้ที่ยืนขวางทางจนทำให้รถตกลงไปในป่าข้างทาง Leon และ Helena พยายามหนีออกมาก่อนที่รถจะระเบิดได้ทัน แต่ชาวบ้านทั้งหมดตายเรียบ ทั้งคู่จะมาอยู่ที่สุสานข้างๆโบสถ์ ที่นี่นั้นมืดมาก พยายามเดินไปตามทางหินสีขาวขึ้นไปบนเนินจะไบทางเข้าโบสถ์ด้านบน แต่ประตูหน้าล็อกอยู่ เข้าห้องเก็บของทางซ้ายจะพบหมาซอมบี้ด้านในซึ่งมันได้คาบกุญแจประตูแล้วหนีไปในสุสาน ตามล่ามันไปตามจุดแดงจนพบแล้วกำจัดมันซะ เก็บกุญแจมาไขประตูหน้าโบสถ์เข้าไป ระหว่างทางขึ้น Leon ก็ถูกซอมบี้พุ่งเข้าใส่จนตกลงมาด้านล่างของสุสานอีกด้าน รีบลุยกลับขึ้นไปหา Helena ให้เร็วที่สุดเพราะที่นี่ซอมบี้มันจะออกมาเรื่อยๆไม่หมด เมื่อทั้งคู่เข้ามาถึงประตูด้านในของโบสถ์แล้ว เมื่อพยายามเรียกให้คนด้านในให้เปิด แต่ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวมากจนไม่เปิดต้อนรับ แต่ระฆังโบสถ์ที่ดังขึ้นมากลับเรียกฝูงซอมบี้ให้รุมเข้ามามากมาย ต้านพวกมันเอาไว้จนกว่าคนด้านในโบสถ์ใจอ่อนจนเปิดประตูออกให้เข้าไปด้านใน


ในโบสถ์จะพบผู้รอดชีวิตอยู่จำนวนหนึ่ง แต่พวก เขาดูจะผิดหวังมากที่ Leon และ Helena ไม่ใช่พวกหน่วยทหารที่มาช่วยเหลือ Helena ชี้ให้ Leon ดูทางเข้าลับใต้รูปปั้นกลางโบสถ์ที่ต้องหาทางเข้าไปให้ได้ สำรวจเก็บรูปปั้น Madonna ตัวแรกที่แท่นข้างๆรูปปั้นใหญ่ แล้วดันตัว Helena ขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 2 เธอจะไปดันบันไดด้านบนลงมาให้ Leon สามารถปีนขึ้นไปได้ เดินไปที่มุมด้านในเก็บ รูปปั้น Madonna ตัวที่ 2 มาแล้วเอามาบนแท่นแต่ละด้านบนชั้น 2 นี้ประตูด้านในก็จะเปิดออก เข้าไปด้านในสับคันโยกพร้อมๆกันทางทั้ง 2 ทางก็จะเปิดออกให้ Leon และ Helena เข้าไปด้านใน แต่ทั้งคู่ก็ถูกกั้นเอาไว้จากกันด้วยแกนเหล็กที่อยู่ระหว่างห้อง

ห้องกับดักห้องแรก - รูปปั้นที่พนังจากยิงเลเชอร์ออกมาใส่ หลบเข้าไปปิดสวิตซ์มันซะแล้วทางเข้าจะเปิดออก

ห้องกับดักห้องที่ 2 - รูปปั้นที่พนังจากยิงเลเชอร์ออกมาใส่จำนวนมาก หลบและวิ่งไล่กดสวิตซ์ปิดการทำงานของมันให้หมดทุกตัว แล้วทางเข้าจะเปิดออก

ห้องที่ 3 – จะมีรูปปั้นที่ถือโล่อยู่ทางซ้ายของพนัง สังเกตดูฝั่งห้องของ Helena จะมีศพที่ถือปืนเลเซอร์ชี้เป้ามาที่รูปปั้น เล็งปืนให้เลเชอร์ปืนชี้ไปใส่โล่ที่รูปปั้นมันจะเริ่มเป็นสีแดง แล้วทางเข้าจะเปิดออก

ขึ้นบันไดไปชั้นบน – จะมีรูปปั้นที่ถือโล่อยู่ที่น้ำตกที่ระเบียงด้านล่างเล็งปืนให้เลเชอร์ปืนชี้ไปใส่โล่ แล้วทางเข้าจะเปิดออก

ทางเดินด้านใน – จะมีรูปปั้นที่ถือโล่อยู่ที่พนังฝั่งซ้ายบนที่ฝั่งของ Helena เล็งปืนให้เลเชอร์ปืนชี้ไปใส่โล่ แล้วทางเข้าจะเปิดออก

ห้องด้านใน – เล็งไปที่กระจกบนเพดานให้เลเซอร์ปืนชี้ไปใส่โล่ แล้วทางเข้าจะเปิดออก

เข้ามารวมกับ Helena ในห้อง ด้านในเก็บรูปปั้น Madonna Sorrow ตัวแรกมา จากนั้นเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเข้าไปเก็บปืน Semi – Auto Sniper Rifle จากศพมาใช้ ที่นี่จะเห็นรูปปั้น Madonna ตัวที่ 2 ตั้งอยู่ในประตูลูกกรง ออกไปที่ระเบียงด้านนอกใช้ ปืน Sniper เล็งยิงระฆังบนยอดโบสถ์ให้ครบ 5 อันให้ดังสนั่น ประตูลูกกรงด้านในก็จะเปิดออก เข้าไปเก็บ รูปปั้น Madonna ตัวที่ 2 ออกมา แล้วออกประตูที่เปิดออกมาที่ระเบียงชั้น 3 เอารูปปั้น 2 ตัวไปใส่ที่แท่นที่ระเบียง ทางลับใต้รูปปั้นที่ห้องโถงด้านล่างของโบสถ์ก็จะเปิดออก แต่จะมีซอมบี้แก็สพิษตามขึ้นมาด้วยมันจะปล่อนแก็สไวรัสทำให้คนติดเชิ้อกันไปเกือบหมด  พยายามจัดการมันให้ได้ โดยให้คนตายน้อยที่สุด แล้วเก็บ Key Card จากสพมันมาแล้วเอาไปไขเปิดประตูเข้าทางลับใต้โบสถ์ต่อไป

ทางลับจะนำ Leon และ Helena มาจนถึงคุกใต้ดินที่มีห้องขังมากมายซึ่งแน่นอนว่าถ้าส่องดูก็จะพบพวกซอมบี้ด้านในทั้งนั้น แต่ละห้องจะมีเลขห้องติดอยู่ซึ่งจะชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ด้านสุดห้องจะมีแท่นควบคุมซึ่งนอกจากจะต้องใส่รหัสเพื่อเปิดประตูไปต่อแล้ว ยังสามารถเปิดประตูห้องขังอื่นๆเพื่อจัดการซอมบี้เก็บ Skill Point ได้ด้วย

 -  ประตูใหญ่ทางเข้าหลัก ใส่รหัส [ 210 ] ส่วนประตูคุกห้องอื่นๆก็ใส่เลขรหัสดังนี้ [102 ] [ 201 ] [ 012 ]

 จากนั้นเข้าไปในคุกส่วนในต่อ

-  ประตูใหญ่ทางเข้าหลัก ใส่รหัส [ 021 ] ส่วนประตูคุกห้องอื่นๆก็ใส่เลขรหัสดังนี้ [120 ] [ 102 ] [ 212 ] [ 201 ]


หลังจากผ่านเข้าส่วนในแล้วจะเป็นห้องทดลองลับซึ่ง Helena เริ่มดูลุกลนที่จะตามหาใครคนนึงที่ชื่อ Debrah จนทำให้ Leon ถึงกับงงว่าเป็นใครกันแน่ เข้าไปถึงห้องทดลองด้านใน Leon จะได้เห็น VDO ที่บันทึกการกำเนิดใหม่ของ Ada Wong จนทำให้ Leon เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา จากนั้นใส่รหัส 201 ที่แท่นควบคุมเพื่อเปิดประตูด้านในเข้าไปต่อจนถึงห้องหม้อแปลงไฟฟ้า เข้ามาแล้วสับคันโยกอันแรก เปิดทางเข้าด้านใน ย้อนกลับไปเข้าไปตามทางไปสับคันโยกที่ 2 ให้มีทางเชื่อมทอดออกมาตรงคันโยกแรก เดินผ่านคันโยกแรกไปจนถึงคันโยกที่ 3 ให้ทางเชื่อมตรงกลางออกมา ดันตัว Helena ขึ้นไปด้านบนให้เธอไปสับคันโยกที่ 4 ฝั่งตรงข้ามแล้วทางทั้งหมดก็จะเชื่อมต่อกันจนเข้าไปที่ประตูด้านในได้ สับคันโยกเปิดประตูด้านในไปตามทางเดินยาวจะพบฝูงซอมบี้มากมายเข้ามารุมโจมตี ซึ่งมันจะออกมาไม่หมดไม่สิ้น รีบลุยเข้าไปจนถึงท่อส่งขยะด้านในเพื่อโดดหนีลงมาชั้นล่างต่อ


ที่ถ้ำใต้ดินด้านในจะพบกับ Debrah ที่นอนอยู่ตรงน้ำตก Helena จะยอมบอกว่าจริงๆแล้ว Debrah คือน้องสาวของเธอที่ถูก Derel C. Simmons หัวหน้าหน่วยองค์รักษ์ของประธานาธิบดี อดัม ที่ Helena ยืนยันว่าเป็นเป็นผู้ที่ทำให้เกิดการระบาดของเชื้อ C Virus ชนิดใหม่ขึ้นมา ในขณะคุยกันอยู่ Debrah ก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนร่างไปทีละนิดจนลูกดอกของหน้าไม้พุ่งเข้ามาเจาะหัวเธอจนล้มไป ทันทีที่ Ada Wong ปรากฏตัวขึ้นมา Leon ก็เหมือนกับเห็นผีขึ้นมาทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว Debrah กลายร่างจนสำเร็จและเข้าโจมตีใส่ทุกคนทันที Boss – Debrah เธอจะบินขึ้นไปเกาะที่สูงแล้วโจมตีลงมา ให้ใช้ Sniper เล็งยิงเธอจนตกลงมายิงซ้ำจนเธอหยุดนิ่งแล้วรีบเข้าไปกดโจมตีที่ร่างของเธอเพื่อทำคอมโบต่อเลย สู้ไปซักพักเธอจะหนีไปทุกคนจะพากันลงไปส่วนร่างของถ้ำต่อ ซึ่ง Ada จะมอบแหวนให้กับ Leon ไว้ด้วย  ระหว่างทาง Debrah ก็เข้ามาโจมตีอีกครั้งจน Leon กระเด็นไปอีกฝั่ง ส่วน Helena และ Ada จะตกลงไปในรถรรางพอดี ลุยลงไปชั้นล่างดึงเอารถรางมาใกล้แล้วโดดขึ้นไปได้เลย ระหว่างทาง Debrah จะเข้าโจมตีเข้ามาในรถรางอักครั้ง พยายามจัดการเธอให้ได้จนเธอจะตกลงไปในเหว ซึ่ง Helena จะรีบมาดึงตัว Debrah เอาไว้ได้ทัน แต่เธอเห็นสภาพน้องสาวที่กลายร่างจนควบคุมไม่ได้จนกลายเป็นปีศาจไวรัสไปแล้ว Helena จึงจำใจต้องปล่อยให้ Debrah ตกลงไปตายเพื่อพ้นทุกข์ ส่วนความแค้น Helena คงต้องไปไล่ล่าทวงจาก Simmons เอาทีหลัง


จากนั้น Helena จะเล่าความจริงให้ Leon ฟังถึงแผนการร้ายที่ Simmons จะทำที่เกี่ยวกับ C Virus ซึ่ง Helena เองก็ถูก Simmons ในฐานะเจ้าหน้าที่ชั้นสูงหลอกใช้จนทำให้ Debrah น้องสาวของเธอกลายเป็นร่างทดลองไปในที่สุด จากนั้นโทรศัพท์จาก Hunnigan ก็ติดต่อมา แต่คนที่มาพูดสายกลับเป็น Simmons มันใช้อำนาจหน้าที่ในความเป็นองค์รักษ์ประธานาธิบดีของมันเข้าควบคุมการทำงานของ Hunnigan ในหน่วย Field Operation Support ทั้งหมด และ ชี้ประเด็นไปที่การจับกุมคนที่ฆ่า ประธานาธิบดี Adam จนตายซึ่งนั่นก็คือ Leon นั่นเอง


Leon Chapter 3: Get on the Plane

หลังจากที่ Simmons เข้ามาควบคุมทุกอย่างและมุ่งประเด็นไปที่การจับกุม Leon ในฐานะคนที่ฆ่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทำให้ Helena ก็ยิ่งเครียดแค้น Simmons มากขึ้นทุกที Leon และ Helena เดินทางต่อเข้ามายังสุสานโบราณส่วนล่างต่อ ด้านในจะพบกับดักใบเลื่อยซึ่งต้องวิ่งสไลด์ตัวลอดผ่านไป [ แกน LS + LT + A ] ผ่านเข้าไปจนพบกับดักลุกไฟขวางทางอยู่ ดันให้ Helena ปีนขึ้นไปด้านบนแล้วข้ามไปปิดสวิตซ์ไฟทำให้ Leon เข้าไปต่อได้ เข้าไปตามทางจนถึงประตูสัญญาลักษณ์ของตระกูล Simmons ทำให้ Leon นึกถึงตราที่เหมือนกับแหวนที่ Ada ให้เอาไว้ตอนอยู่ในถ้ำ เมื่อนำมาใช้เปิดประตูก็จะสามารถเปิดออกได้แล้ว จากนั้นฝูงซอมบี้จะเริ่มบุกเข้ามา ต้านมันเอาไว้จนกว่าปนะตูจะเปิดออกให้เข้าไปด้านใน เข้าไปตามทางจนถึงประตูแดง ดันให้ Helena ไปชั้นบนโดดอ้อมไปอีกฝั่ง ยิงคุ้มกันให้เธอจนเธอหมุนสวิตซ์เปิดประตูแดงออกให้ได้ ตอนนี้ Leon และ Helena จะอยู่กันคนละฝากของทางเดินอยู่ ลุยเข้าด้านในจนพบประตูน้ำเงิน จัดการฝูงซอมบี้ที่ออกมามากมายจนได้ไอเทม แกนหมุนที่ตกลงมา นำไปไขเปิดประตูน้ำเงินเข้าไปด้านในก็จะร่วมกลุ่มกับ Helena อีกครั้ง แล้วช่วยกันสับคันโยกเปิดประตูลงชั้นใต้ดินต่อ


เข้ามาจนถึงถ้ำใต้ดิน พอเข้ามา Leon ทันทีว่าในนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่เมื่อเข้าเห็นปลายักษ์ว่ายผ่านหน้าไป เดินเข้าไปเก็บปืน Assault Rifle RN ที่ศพตรงทางเดินมาแล้วลุยเข้าไปในถ้ำ ช่วยกันเปิดประตูทำทางให้กันและกันจนถึงส่วนล่างของถ้ำ ก็จะเกิดแรงสั่นสะเทอนจนถ้ำเรอ่มถล่มทำให้ต้องรีบวิ่งฝ่าดงซอมบี้ลงไปชั้นล่างให้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายก็หนีไม่ทันทั้ง Leon และ Helena ต่างก็โดนน้ำที่ทะลักเข้ามาพัดพาเข้าสู่ทางน้ำใต้ดินชั้นล่างสุด ที่นี่จะต้องดำน้ำเข้าไปตามโพรงของถ้ำ ซึ่งต้องระวังปริมาณของอากาศด้วย พยายามลอยขึ้นไปหายใจตามช่องอากาศด้านบนให้ทัน และในนี้ก็ค่อนข้างซับซ้อนและมองทางลำบากจนทำให้หลงทางจนจมน้ำตายได้ง่ายมาก ดำเข้ามาจนเจอปลายักษ์มาปิดทางเอาไว้ ดำเข้ารอยแตกทางฝั่งซ้ายไปต่อ พยายามมองทางให้ดี ดำไปตามทางแคบๆไปจนพบกองซากศพที่ลอยอยู่จำนวนมากแล้วก็รีบยกตัวขึ้นด้านบนเรื่อยๆก็จะพบโพรงอากาศ ว่ายขึ้นด้านบนต่อจะพบทางขึ้นท่อระบายน้ำ แต่ขณะที่กำลังจะขึ้นเจ้าปลากยักษ์ก็มาดึงลากตัว Helena ลงไปในน้ำต่อ Leon ต้องรีบเกาะตามไปช่วยเธอเอาไว้ จนทั้งคู่โดยน้ำพัดกระเด็นเข้ามาที่ทางน้ำส่วนใน Helena จะอยู่บนสะพานด้านบน เธอจะบอกให้ Leon รีบว่ายน้ำหนีปลายักษ์มาขึ้นฝั่งให้ทันโดยเธอจะคอยยิงคุ้มกันให้ เมื่อขึ้นฝั่งได้แล้วขณะทั้งคู่กำลังดันสะพานด้านในให้เปิดออก เจ้าปลายักษ์ก็โดดพุ่งชนจนทั้งคู่ไหลไปตามทางน้ำ ซึ่งเจ้าปลาก็ไม่ลดละที่จะตามไล่งัดมาด้วย พยายามยิงที่ลิ้นมันไปเรื่อยๆจนถังระเบิดไหลมาใกล้ ยิงที่ถังระเบิดด้านบนตัวปลายักษ์ก็จะจัดการมันลงได้

Leon และ Helena รอดออกมาจากถ้ำใต้ดินสู่ลำธารเล็กๆนอกเมืองสำเร็จ ซึ่งก็ทันเวลากับที่ Simmons สั่งฝูงบินเข้าถล่มเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จากนั้น Hunnigan จะส่งรายละเอียดของต้นต่อแหล่งที่เผยแพร์ไวรัสชนิดใหม่ที่เรียกว่า C Virus ซึ่งก็คือที่ประเทศจีนนั่นเอง จึงทำให้ทั้ง Leon และ Helena ต้องมุ่งหน้าไปหาข้อเท็จจริงที่ประเทศจีนทันที เพราะรู้ว่ายังไง Simmons ก็ต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน


Leon Chapter 4: Big Trouble in China

30 มิ.ย 2513 ….เมือง Lanshiang ในประเทศจีน Leon และ Helena เดินทางโดยเครื่องบินมุ่งสู่จุดหมายคือประเทศจีน แต่จู่ๆเครื่องบินก็เกิดแรงสั่นสะเทือน เมื่อ Leon วิ่งไปดูที่ห้องคนขับจะพบว่าคนขับดันติดเชื้อไวรัสเข้าให้แล้ว มันเปลี่ยนสภาพเป็นซอมบี้แก็สพิษ ออกมาโจมตีทันที เมื่อยิงมันไปเรื่อยๆมันจะหนีออกลงไปด้านนอกเครื่อง Leon และ Helena จึงต้องรีบลงไปชั้นห้องเก็บของเพื่อปิดระบบทางเดินอากาศเสียก่อนเครื่องบินจะตก แต่เจ้า ซอมบี้แก็สพิษ ก็ตามมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะยิงมันยังไงมันก็ไม่ตาย Leon จึงเข้าไปสับคันโยกเปิดส่วนท้ายของเครื่องบินออกจามันตกลงไปด้านล่าง แต่ Leon และ Helena ก็เกือบร่วงไปเหมือนกัน เมื่อปีนขึ้นมาจนปลอดภัยแล้ว รีบขึ้นไปที่ห้องนักบิน แล้ว Hunnigan จะส่งข้อมูลมาสอนให้ Leon เอาเครื่องลงจอดฉุกเฉิน จนสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยในกลางเมืองพอดี เมื่อทั้งคู่ออกมาจากเครื่องบิน Leon ก็จะพบกับ Sherry ลูกสาวของ Dr. วิลเลี่ยม เบอร์กิน ที่ตอนนี้เธอเป็นสายลับให้กับรัฐบาลสหรัฐ ที่มากับชายที่ชื่อ Jake Muller ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยไว้ใจในตัว Leon มากนัก Leon พยายามจะบอกกับ Sherry ว่า Simmons หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระบาดของ C Virus ในครั้งนี้ด้วย ทำให้ Sherry ตกใจมากเพราะเธอก็ทำงานให้กับหน่วยงานของ Simmons เหมือนกัน ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเริ่มเข้าใจผิดกันและกัน มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ Ustanak ที่ดูเหมือนจะตามไล่ล่า Jake Muller ก็เข้ามาโจมตีทุกคนทันที ช่วยกับระดมยิง Ustanak จนสามารถจัดการมันลงได้ แต่แรงระเบิดก็ทำให้เสาขนาดใหญ่ล้มมากั้นทางระหว่าง Leon และ Sherry เอาไว้ จนต้องแยกกันเดินทางอีกครั้ง แต่ด้วยความไว้ใจ ก่อนจะจากกัน Sherry ก็มอบ Chip ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ C Virus และ Anti C Virus ยารักษาให้ไว้กับ Leon


Hunnigan จะส่งที่อยู่ของ Simmons มาให้ซึ่งจะอยู่ที่ตึก Kwun Lung Leon และ Helena จึงรีบมุ่งหน้าไปทันที เดินทางผ่านตลาดสุดทางจะพบประตูเข้าร้านขายหมูที่มีกุญแจล็อกอยู่ถึง 3 ชั้น ตามหากุญแจทั้ง 3 ดอกที่ขึ้นเป็นเป้าหมายในตลาดแห่งนี้ แต่ตลาดแห่งนี้นั้นค่อนข้างซับซ้อนและจดจำได้ยาก แถมยังมีตัวซอมบี้แยกร่างที่เข้าโจมตีอยู่ตลอดด้วย ซึ่งยิ่งหลงมากก็ยิ่งเปลืองกระสุนมากขึ้นตาม พยายามหากุญแจทั้ง 3 ดอกให้เจอแล้วเอาไปไขเข้าไปในร้าน เมื่อออกทางหลังร้านเข้าไปในโกดังจะพบ Ada กำลังลอบเข้าไปด้านในเหมือนกัน ทั้งคู่จึงตามเข้าไป ตามเธอลงไปจนถึงห้องทดลองใต้ดิน ซึ่งที่นี่ Leon และ Helena ต้องถูกระบบรักษาความปลอดภัยขังเอาไว้พร้อมส่งหุ่นระเบิดออกมาทำลายอีกด้วย พยายามหลบหุ่นไปเรื่อยๆจนกว่า Ada จะปิดระบบและเปิดประตูให้เข้าไป ทำให้ Helena เริ่มจะงงๆกับความสัมพันธ์ระหว่าง Leon และ Ada มากขึ้นทุกที แต่ขณะที่ Leon กำลังจะถึงตัว Ada เขาก็ต้องพบกับ Chris Redfield และ Piers แห่ง BSAA ที่กำลังเข้ามาตามจับ Ada เหมือนกัน ทั้งคู่สู้กันโดยสัญชาติญาณจนมารู้ถึงหลัง  Leon และ Chris ต่างฝ่ายต่างก็ถามว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ Leon จะเล่าเรื่องตัวการใหญ่ที่ชื่อ Simmons ที่เขากำลังไล่ล่า ส่วน Chris ก็ตามล่า Ada ในฐานะมีข้อมูลสำคัญของ C Virus และเกี่ยวข้องอย่างเต็มๆกับองค์กรลับ Neo Umbrella .ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน  Ada ก็ฉวยโอกาศหนีไปอีกเช่นเคย Leon พยายามบอกกับ Chris ว่าเราทุกคนต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันและต้องเชื่อใจกับ Chris จึงให้ Leon ไปไล่ล่า Simmons ส่วนทีมของเขาจะไปตามจับ Ada ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป


Leon และ Helena ลุยผ่านถนนจนเข้ามาในตึก Kwun Lung จะพบกับ Simmons ที่กำลังหลบหนี พร้อมกับ Sherry และ Jake ที่เดินทางมาที่นี่เหมือนกัน มันสั่งลูกน้องให้ระดมยิงโจมตีเข้ามาใส่อย่างไม่ยั้ง ในขณะที่ Sherry พยายามถามหาความจริงถึงเรื่องแผนการร้ายที่ Simmons ได้ก่อขึ้นซึ่งมันเองก็ยอมรับแต่โดยดี ขณะนั้น Ada ได้ยิงเชื้อไวรัสเข้าใส่ร่างของ Simmons ในตอนมันเผลอจนทำให้มันติดเชื้อและรีบโดดหนีไปกับขบวนรถไฟที่แล่นผ่านมา Leon และ Helena ไม่รอช้าที่จะโดดตามมันไปทันที ในขบวนรถไฟวิ่งตามมันไปจนพบ Simmons บนหลังคารถไฟซึ่งมันได้กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายสี่ขา และเข้าโจมตีใส่ทันที Simmons มันจะโจมตีไปมาในหลายๆจุดของโบกี้รถไฟ เจอที่ไหนยิ่งถล่มมันเข้าไปก็พอ เมื่อพลังมันลดน้อยแล้วมันจะโดดออกจากรถไฟเข้าโจมตีทางด้านข้างก่อนจะวิ่งไปดักหน้าหมายจะพุ่งเข้าชนรถไฟที่ Leon และ Helena อยู่ รีบใช้ปืน Sniper เล็งยิงมันจนมันเสียหลักและโดนรถไฟชนอย่างจัง Simmons ลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องหยุดนิ่งด้วยกระสุนแห่งความแค้นของ Helena ที่ส่งเข้าสู่หัวสมองของมันก่อนรถไปจะชนมันซ้ำจนตกรางและทั้งคู่ต้องโดดหนีตายลงน้ำไป 

และแล้ว Helena ก็แก้แค้นให้น้องสาวเธอสำเร็จ พร้อมหยุดวายร้ายกับแผนร้ายของมันลงได้สำเร็จ ทั้งคู่ขึ้นจากน้ำดูเมืองที่เริ่มเข้าสู่ทิศทางที่ดี มีกองทหารมาช่วยอพยพผู้คนในเมือง ในขณะที่ Helena กำลังจะถาม Leon ว่าเรื่องร้ายๆนี้กำลังจบลงแล้วหรือยัง วิทยุจาก Hunnigan และ Chris ก็ติดต่อมาให้ Leon หนีออกจากพื้นที่โดยด่วน ในขณะที่ Helena เพิ่งจะมองเห็นจรวดที่บรรจุ C ไวรัส พุ่งเข้าใส่ตัวเมือง ไอของไวรัสทำให้ผู้คนที่สุดดมเข้าไปกลายร่างเป็นซอมบี้ที่หิวโหย และ เมืองทั้งเมืองก็กลายเป็นนรกบนดินไปทันที


Leon Chapter 5: The Trouble With Women


 Leon และ Helena รอดจากระเบิดไวรัสเพราะอยู่ไกลจากเมืองค่อนข้างมาก Leon พยายามติดต่อไปหา Chris ที่อยู่บนเครื่องบินเจ็ทบนน่านฟ้าของเมือง เขาพยายามบอกให้ Chris ไปตามหา Sherry ที่อยู่ที่เขตน้ำตกเพราะเธอมีสิ่งที่จะหยุดยั้ง C Virus ได้ นั่นก็คือเลือด Anti - Virus ของ Jake ลูกชายของ Wesker ที่เดินทางไปพร้อมกับเธอนั่นเอง Chris ได้ยินคำว่า “ลูกชายของ Wesker “ ก็ทั้งตกใจและแปลกใจแต่ยังไงเขาก็รีบมุ่งหน้าไปตามหาทั้งคู่ทันที


 สภาพของงเมือง Lanshiang ในเขตท่าเรือ ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับนรก ม่านควันพิษปกคลุมไปทั่วจนแทบมองไม่เห็นแสงสว่าง Leon ขอให้ทหารช่วยนำทางพาข้ามไปอีกฝั่งของถนนเพื่อหนีออกจากที่นี่ วิ่งตามทหารไปอย่าหยุดเพราะควันพิษที่เข้ามาทำให้ถึงตายได้ทันทีถ้ามัวชักช้า ลุยเข้าไปในตึกจนผ่านออกมาด้านหลังจะพบรถทหารจอดอยู่ ทหารจะพานั่งรถผ่านหมอกควันพิษที่ปกคลุมไปทั่วจนผ่านมาอีกด้านที่มีซากรถขวางทางอยู่ Leon และ Helena พยายามปีนข้ามไปอีกด้านแต่ก็ต้องพบการรถที่กระเด็นเข้ามากระแทก แรงระเบิดทำให้ Helena บาดเจ็บ หลบเข้าไปในซากตึก เดินทางทะลุออกมาจากซากตึกจะพบความวุ่นวายบนท้องถนนอย่างบ้าคลั่งของพวกซอมบี้ เอาตัวรอดลุยเข้าไปข้างหน้า วิ่งหนีแรงระเบิดไปจนถึงคอปเตอร์ของทหาร แต่ในขณะเดินทางกลับต้องโชคร้ายที่ดันมีซอมบี้เกาะมาด้วยทำให้เฮลิคอปเตอร์ต้องตกลงที่กลางเมือง โชคดีที่ Leon และ Helena ไม่บาดเจ็บมาก ทั้งคู่เดินต่อจนถึงตึกเป้าหมาย เมื่อเข้าไปด้านในจะพบศพของคนในหน่วย BSAA ตายกันเกลื่อน ทันใดเท้าขนาดใหญ่ของผู้ไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏให้เห็น Leon รู้ทันที่ว่า Simmons นั้นยังไม่ตาย มันได้กลายร่างเป็นสัตว์ขนาดยักษ์เข้ามาโจมตี คราวนี้มันแปลงร่างเป็นไดโนเสาร์ ซึ่งทิ้งระยะห่างแล้วดักยิงไปเรื่อยๆจนมันกลายเป็นร่างเดิมแล้วจึงเข้าไปต่อยคอมโบกับมัน ทำแบบนี้ไปเรื่อยก็จะจัดการมันจนล้มลงได้


 ในขณะที่ Ada จะขับเฮลิคอปเตอร์มาสังเกตุการ์ณ เมื่อ Leon เห็นจึงงงว่าทำไม Chris ถึงแจ้งข่าวมาว่า Ada ถูกฆ่าตายไปแล้ว เมื่อทั้งคู่เห็น Ada ขับเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบนดาดฟ้าจึงรีบขึ้นลิฟต์ตามขึ้นไปทันที แต่ Simmons ก็ตามมาอย่างไม่ลดละจนลิฟต์โดนทำลาย พยายามปีนเชือกขึ้นไปถึงด้านบนต่อ ระหว่างทาง Leon จะเห็นว่า Ada กำลังโดน Simmons โจมตีอย่างหนักจนบาดเจ็บ เขาจึงรีบโดดไปช่วยเธอให้ลุกขึ้นมาสู้ไปพร้อมๆกัน Leon , Ada และ Helena ร่วมมือกันสู้ Simmons ร่วมกันจนสามารถทำให้มันร่วงลงไปในกองไฟได้สำเร็จ ในขณะที่ Ada กำลังจะหนีอีกครั้ง Leon พยายามตะโกนถามเธอว่า เธอเป็นอะไรกันแน่ และทำไมถึงช่วยพวกของ Leon ตลอด แต่ Ada ส่งข้อความมาบอกแค่ว่า ตอนนี้ไม่มีเวลาจะคุยด้วยได้นาน แต่ก็ได้ทิ้งของขวัญชิ้นสำคัญไว้ให้บนดาดฟ้าแล้ว Helena จะบอกให้ Leon รีบตามไปจับเธอ แต่ Leon บอกได้แค่ว่า ไม่เป็นไรหรอก Ada เธอติดหนึบอยู่กับเราตลอดนั่นแหละ เมื่อทั้งคู่ขึ้นมาถึงดาดฟ้าจะพบเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ ซึ่งนี่มั้งคือของขวัญที่ Ada พูดถึง แต่ลานด้านในเต็มไปด้วยซอมบี้มากมาย เมื่อโดดลงไปก็จะพบกับ Simmons ที่ยังไม่ตาย มันยังคงตามมาดูดกลืนพลังชีวิตจากพวกซอมบี้จนขยายร่างเกิดใหม่ในร่างแมลงวันปีศาจ ซึ่งครั้งนี้ก็จะได้สู้กับแบบจริงๆซะที


 Boss – Simmons ในร่างแมลงวันปีศาจมันจะโจมตีด้วยการพ่นเมือกและขาแหลมๆของมัน ส่วนซอมบี้ที่เดินไปมานั่นเป็นตัวให้กระสุน ที่กลางฉากจะมีเสาสายล่อฟ้าปักอยู่ สามารถใช้มันเสียบเช้าไปที่ตัวของพวกซอมบี้แล้วเมื่อ Simmons โดนโจมตีจนพลังหมดมันก็จะดึงตัวซอมบี้พร้อมสายล่อฟ้าไปเติมพลังชีวิตของมัน ซึ่งจะทำให้มันถูกสายฟ้าผ่าจนบาดเจ็บหนักได้ โดยจุดอ่อนของมันจะอยู่ตามจุดแดงๆรอบๆตัวของมันซึ่งถ้าใช้ Shotgun ยิงใกล้ๆจะได้ผลดีที่สุดเพราะจะระเบิดพร้อมๆกันหลายๆจุดในทีเดียวเลย โจมตีไปจนมันล้มลงก็รีบขึ้นไปยัดระเบิดเข้าที่หัวของมันจนระเบิดทำมันบาดเจ็บ  มันก็จะดึงตัวซอมบี้พร้อมสายล่อฟ้าไปเติมพลังชีวิตของมัน ซึ่งจะทำให้มันถูกสายฟ้าผ่าจนตกลงไปด้านล่างอีกครั้ง จากนั้นรีบไปที่เฮลิคอปเตอร์ แล้ว Simmons มันจะตามมาอีกครั้ง ใช้ปืน RPG ในเฮลิคอปเตอร์ยิงใส่มันได้เลย เมื่อหมดพลังร่างของ Simmons ก็จะกลับคืนร่างเดิมมันพยายามจะดิ้นรนเฮือกสุดท้ายแต่ร่างของมันก็ไปเสียบที่ยอดตึกของ Umbrella จนตายสลายไปที่สุด …


 ในขณะที่กำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ Leon สังเกตเห็นตลับแป้งที่ Ada ทิ้งไว้ให้ เมื่อเปิดดูจะพบ Micro Chip ด้านในจะเป็นข้อมูลของ Simmons มัดความผิดของมันที่เกี่ยวข้องกับ Neo Umbrella จนเกิดการระบาดของ C Virus ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะล้างความผิดของ Leon และ Helena ที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้นได้

 Helena เข้ามาเคารพที่หลุมฝังศพของ Debrah น้องสาวของเธอพร้อมกับ Leon และ Hunnigan จากนั้นเธอจะยอมมอบตัวกับ Leon และ Hunnigan แต่ Leon คืนอาวุธให้เธอก่อนที่ Hunnigan จะบอกว่าความผิดทั้งหมดเป็นของ Simmons ที่ก่อขึ้นและอยากให้เธอกลับมาร่วมทีมอีกครั้ง Helena จึงรับปืนจาก Leon และกลับมาทำหน้าที่อีกครั้งอยากเต็มภาคภูมิ


 Chris Redfield Campaign

 เส้นทางการดำเนินเรื่องของ Chris นั้นจะออกไปทางบู๊ล้างพลาญและดุเดือดด้วยความวุ่นวายของสงครามตามสถานที่ต่างๆ แต่ในทางกลับกันศัตรูของ Chris ก็ร้ายกาจในแบบนักรบมากกว่าซอมบี้ทั่วๆไปเหมือนกับเส้นทางของ Leon การใช้กระสุนของ Chris จึงมากเป็นเงาตามตัวรวมทั้งจำนวนกระสุนและสมุนไพรก็ยังน้อยตามไปด้วยอีก แถมคู่หูอย่าง Piers และลูกทีมมากมายที่ตามมานั้นก็ต่างคนต่างยิงไม่ได้เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือ Chris มากนัก เส้นทางของ Chris จึงเป็นการเอาตัวรอดในสงครามแบบเต็มตัว


 Chris Redfield Chapter 1: Rescue the Hostages

29 มิ.ย 2513 …..  6 เดือนหลังจาก Chris หายตัวไปหลังจากออกปฎิบัติภาระกิจหยุดยั้งการะบาดของไวรัสที่สาธารณรัฐ Edonia ในรุโรปตะวันออก ซึ่ง Piers อดีตลูกน้องในทีมตามหาคริสคู่หูเขาจนเจอในสภาพเมาหัวราน้ำอยู่ในบาร์แห่งนึงในยุโรปตะวันออก ซึ่งในครั้งแรกที่เจอกับคริสเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรกับเขาและลูกน้องของเขา จน Piers ต้องใช้การตายของคนในทีมมากดดันคริสจนความทรงจำเขากลับคืนมาอีกครั้งนึง จนกลับมารับหน้าที่ใน BSAA สาขาอเมริกาใต้ อีกครั้ง โดยภาระกิจต่อไปของเขาคือเข้าไปยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสที่เมือง Lanshiang ในประเทศจีน ร่วมกับหน่วย BSAA สาขาอเมริกาเหนือ ….


30 มิ.ย 2513 ….  เมือง Walyip ในประเทศจีน หน่วย Alpha Team ของ Chris พร้อม Piers Nivans คู่หูได้ข้ากระชับพื้นที่เพื่อต่อต้าน B.O.W ในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า J’avo (จูโว) ที่มีความเป็นมนุษย์สูงซึ่งมันสามารถใช้อาวุธและเครื่องจักรสงครามได้เกือบทุกอย่างแถมยังมีสามารถฝักตัว (Chrysaild)   กลายร่างเป็น B.O.W รูปแบบใหม่ๆออกมาได้อีกเมื่อถูกโจมตีในครั้งแรกได้อีกต่างหาก โดยมีเป้าหมายในการเช้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของทาง UN ที่ยังติดข้างอยู่ในพื้นที่ ถึงแม้ว่า Chris นั้นจะกลับมาทำงานให้กับ BSAA อีกครั้งแต่สภาพจิตใจและความทรงจำของเขาเกี่ยวกับเหตุการ์ณในอดีตก็ยังไม่สู้จะดีมากนัก เขายังคงควบคุมสติและความโกรธได้ไม่ดีนักทำให้ต้องเป็นหน้าที่ของ Piers คู่หูของเขาที่ต้องคอยดูและเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด


นำทีมลุยเข้าไปตามตัวตึก การลุยกับพวก J’avo นั้นต้องอาศัยการเข้าที่กำบัง ( ในขณะกด LT ใกล้ๆที่กำบังแล้วกด A ) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของการอยู่รอดในการเดินทางของ Chris   ลุยเข้าไปตามทาง จนถึงสุดทางจะมีพวก J’avo มากมายบุกเข้ามาต้านพวกมันเอาไว้จนกว่าทีมเสริม Bravo จะเข้ามาสมทบ ลุยต่อเข้าไปยังตัวตึกชั้นบนจะพบพวก B.O.W ที่คล้ายแมลงมุมจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ UN เอาไว้ 2 คน ตามไล่ล่าจัดการมันแล้วช่วยทั้ง 2 คนมาให้ได้ จากนั้นมุ่งไปที่ลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนแต่ก็จะพบพวก J’avo มากมายดักระดมยิงมาจากชั้นบน จัดการมันให้หมดแล้วลงบันไดมาชั้น 2 จะพบเจ้าหน้าที่ UN อีกคนถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ โดดลงไปจัดการ J’avo ให้หมดแล้วโดยอย่าให้ เจ้าหน้าที่ UN โดนฆ่าตายซะก่อน เมื่อเสร็จงานแล้ว ฐานจะส่งให้ถอนกำลังเพราะได้ส่งจรวดเข้าไปทำลายตึกทั้งหมดแล้ว แต่ทางออกกลับถล่มปิดทางของ Chris และ Piers เอาไว้ จนต้องวิ่งหนีตายขึ้นไปชั้นบนแล้วโดดออกไปที่ทางออกที่ระเบียงให้ทันก่อนจรวดจะเข้ามาทำลายตึกให้ได้


Chris Redfield Chapter 2: Tragedy in Europe

 6 เดือนก่อนหน้านี้



24 ธ.ค 2012 ….  Chris Redfield และ  Piers Nivans คู่หูมือ พร้อมสมาชิกของหน่วย BSAA (Bioterrorism Security Assessment Alliance) สาขาอเมริกาใต้ ประกอบด้วย Ben Airheart , Carl Alfonso , Andy Walker และ Finn Macauley เจาหน้าที่ใหม่ที่เพิ่งเข้าประจำการ ได้ออกปฏิบัติภาระกิจหยุดยั้งการะบาดของไวรัสที่สาธารณรัฐ Edonia ในรุโรปตะวันออก หลังจากอบรมลูกทีมและเจ้าหน้าที่หน้าใหม่อย่าง Finn ซึ่ง Chris ค่อนข้างกังวลเพราะสิ่งที่พวกเขาต้องเจอคือพวก J’avo  B.O.W ชนิดใหม่ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของ Neo Umbrella ซึ่งพวกมันนั้นรวดเร็ว แข็งแรง และเป็นนักรบกล้าตายชั้นดีของ Neo Umbrella ทำให้ต้องคอนดูแล Finn เป็นพิเศษในฐานะหัวหน้าทีม

เมื่อรถเกราะเริ่มบุกนำทีมแล้วก็ตามไปได้เลย ลุยเข้าไปจนถึงหอคอยสุดทางจะพบกับ Giant B.O.W ขนาดใหญ่ที่พวก Neo Umbrella ส่งเข้าพื้นที่ จุดอ่อนของมันจะอยู่ที่ก้อนแดงๆกลางหลัง จุดที่เหมาะคือยิงมันจากบนชั้นสูงๆของอาคารแล้วเมื่อมันโดนยิงจนล้มพุบไปแล้วก็สามารถโดดขึ้นไปถอนทำลายก้อนแดงๆกลางหลังของมันได้ นั่นเป็นทางเดียวที่จะกำจัดมัน เมื่อจัดการจนมันหนีไปแล้ว ลุยเข้าไปด้านในต่อจนเจอซากรถขวางทางอยู่ ต้านพวก J’avo ที่บุกเข้ามามากมาย รอจนกว่าทหารจะระเบิดทำลายซากรถที่ขวางทางได้ เข้าไปจนถึงซากสะพานจะพบทหารที่บาดเจ็บอยู่กลางสะพาน ซึ่ง Chris จะส่ง Piers ขึ้นไปสุ่มยิงคุ้มกันจากบนยอดตึกก่อนที่เขาจะลุยเข้าไปที่กลางสะพานปีนขึ้นชั้นบนที่รางรถไฟ เปิดบันไดให้ Piers ตามขึ้นมาช่วยดันกล่องให้พ้นทางแล้วลุยไปกลางสะพานที่จุดที่มีคนบาดเจ็บอยู่จะมีรถถังของศัตรูพยายามจะรุกคืบเข้ามา พยายามต้านศัตรูเอาไว้จนกว่าลูกทีมจะเข้าไปช่วยคนเจ็บออกมาได้ก่อน แล้วรอให้ลูกทีมที่เหลือเข้าไปทำลายรถถังจนพัง แล้ว Chris จะนำทีมเขาด้านในต่อ

ระหว่างทาง Chris จะได้พบกับ Sherry Birkin ลูกสาวของ Dr. วิลเลี่ยม เบอร์กิน ที่ แคลร์ น้องสาวของเขาเคยช่วยเอาไว้ในเหตุการ์ณที่ raccoon City เธอมาในฐานะ National Security ของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่ง Chris กับสนใจในหน้าตาที่คุ้นเคยของชายที่ตามเธอมาด้วย ซึ่งก็คือ Jake Muller นั่นเอง ระหว่างที่ฐานแจ้งมาว่าให้ไปทำลายปืนต่อสู้อากาศยานของพสกศัตรูตามจุดต่างๆ Giant B.O.W ขนาดใหญ่ ก็บุกเข้ามาอีกครั้ง จากนั้นตามทหารที่นำทางไปยังป้อมปืนแรก เขาจะเข้าไปทำการวางระเบิด จัดการต้าน Giant B.O.W เอาไว้จนเขาติดตั้งระเบิดเสร็จ Giant B.O.W มันก็จะโดนระเบิดไปด้วย ตามทหารไปที่จุดป้อมปืนที่ 2 ต้านพวก J’avo ที่บุกเข้ามาเอาไว้รอให้ ติดตั้งระเบิดเสร็จจนทำลายป้อมปืนลงได้ ตามไปที่จุดที่ 3 จะพบ Giant B.O.W อีกตัวออกมา รอทหารวางระเบิดทำลายป้อมปืนจนเสร็จแล้วขึ้นนั่งร้านไปยิงจัดการ Giant B.O.W ซะ เมื่อทุกอย่างปลอดภัยแล้ว

Sherry และ Jake ก็จะเดินทางต่อ ซึ่ง Chris ก็อดไม่ได้ที่จะถาม Jake ส่าเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า แต่ก็จะได้คำตอบที่ยียวนกลับมาจนได้ เล่นเอา Piers ถึงกับฉุนเพราะเขาเองไม่ชอบพวกทหารรับจ้างอย่าง Jake อยู่แล้ว


Chris นำทีมเข้ามาจนถึงคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ด้านในเต็มไปด้วยร่างของมนุษย์ที่ดูเหมือนกับดักแด้อยู่มากมาย เดินขึ้นไปสำรวจบนห้องในชั้น 2 เก็บปืน Shotgun มาใช้ แล้วกลับลงมาที่ห้องโถง ดักแด้ทุกตัวจะเริ่มพักออกมาเป็น B.O.W มากมาย พวกมันจะมีเกราะหนาคุมร่างกายอยู่ จัดการพวกมันให้หมด แล้วเข้าไปในห้องด้านในต่อ Chris จะพบหลอดเปล่าๆตกอยู่มากมายซึ่งเขารู้ทันทีว่านี่เป็นหลอดบรรจุ C – Virus และ Ada Wong ก็จะออกมาพร้อมกับบอกข้อมูลว่าของพวกนี้เป็นของ Neo Umbrella ซึ่งทำให้ Chris เริ่มไม่สบายใจขึ้นมาทุกครั้วเมื่อได้ยินชื่อนี้ แต่ยังไงสำหรับเขา Ada ก็เป็นผู้หญิงที่ไม่น่าไว้วางใจมากนักแต่ก็จำเป็นต้องคุ้มครองออกจากพื้นที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ ในขระที่กลับออกมาที่ห้องโถงก็จะพบ B.O.W มากมายบุกเข้ามา จึงต้องถอยเข้าไปที่ทางลับตรงบันได้ก่อน เข้ามาตามทางจะพบ B.O.W ในแบบกิ้งก่าเพิ่มเข้ามาอีก ลุยเข้าไปจนถึงห้องด้านใน Alpha ทีมของ Chris ก็ถูกกับดักขังเอาไว้แยก Chris และ Piers ออกจากลูกทีมคนอื่นๆ Ada จะปรากฏตัวออกมาแล้วโยนระเบิดหลดไวรัสระเบิดใส่ลูกทีมของ Chris จนทำให้พวกเขากลายเป็นดักแด้ และเมื่อเริ่มพักตัว Finn ทหารใหม่ก็กลายเป็น B.O.W ที่น่ากลัวไปซะแล้ว  แต่นั่นก็ทำให้ Chris ไม่กล้าที่จะเหนี่ยวไกปืนยิงพวกลุกทีมของเขาจนโดนทำร้ายจนหัวกระแทกอย่างแรง ทำให้ Piers ต้องจัดการพวกมันจนหมดและช่วยพาตัว Chris หนีออกมาได้สำเร็จ

ซึ่งจากเหตุการ์ณนี้ทำให้ คริส รู้สึกผิด โทษตัวเองที่พาลุกทีมไปตายและสูญเสียความทรงจำบางส่วนไปทำให้เขาหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย


Chris Redfield Chapter 3: After Her!

30 มิ.ย 2513 ….…. เมือง Walyip ในประเทศจีน หน่วย Alpha Team ของ Chris ได้เข้ามาเผาทำลายซากดักแด้ของพวกชาวเมืองโชคร้ายก่อนที่มันจะกลายเป็น B.O.W ที่น่ากลัว Chris อดที่จะคิดถึงเหตุการ์ณใน Edonia ไม่ได้ จนเอยถามไปยัง Piers ถึง Ada ว่ารู้ข่าวหรือยังว่าเธอหลบซ่อนอยู่ที่ไหน Piers ดีใจที่ Chris เริ่มจำเรื่องราวต่างๆได้บ้างขึ้นแล้ว และบอกไปว่าตามข่าว Ada ยังอยู่ในเมืองนี้แน่นอน ไม่รอช้า Chris สั่งรวมพลออกไล่ล่า Ada ต่อทันที 


ระหว่างที่จะเดินออกจากตึกลูกทีมของ Chris ก็ถูก B.O.W ในรูปแบบใหม่ที่หายตัวได้เข้ามาจู่โจมและลากตัวไป Chris ที่ยังยึดติดกับเรื่องการตายของลูกน้องจึงรีบตามไปทันทีเพราะเขาไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว ลุยผ่านตลาดเข้าไปส่วนกลางจะพบ Sherry และ Jake ที่กำลังโดนเฮลิคอปเตอร์ไล่ยิงและมีพวกศัตรูล้อมอยู่ ซึ่ง Piers ก็ต้องเตือนความจำกับ Chris ว่าสองคนนี้เคยเจอเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้านี้ Chris จึงรีบเข้าไปช่วยพวกเขา หาที่เหมาะๆสูงๆแล้วยิงเฮลิคอปเตอร์ไปเรื่อยๆจนมันบินหนีไป เข้าห้องด้านในเก็บปืนยิงลูกระเบิด Grenade Launcher มาใช้ ปีนขึ้นหลังคาแล้วส่องยิงทำลาย เฮลิคอปเตอร์ ให้พ้นทาง แล้วพวกของ Sherry และ Jake ก็จะเข้าด้านในต่อได้ Piers นั้นไม่ค่อยพอใจที่ Chris ปล่อยตัวพวก Sherry และ Jake ไปทั้งๆที่น่าจะจับมาสอบถามเรื่อง C – Virus แต่ Chris ก็ย้ำเตือนตลอดว่างานของทีมของเขาคือทำลาย B.O.W เท่านั้น ทำให้ Piers ไม่ค่อยพอใจมากนัก


ทีมของ Chris ไล่ล่า B.O.W ล่องหนต่อไปจนผ่านเข้ามาถึงเมือง Lanshiang  ลุยเข้าไปในตัวตึก ด้านในห้องก็จะพบกับมันซึ่งจะเป็นงูขนาดใหญ่ที่ล่องหนได้ พยายามมองหาและยิงมันให้โดนไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายมันก็หนีไปอีกจนได้ ทำให้ Chris หงุดหงิดและหัวเสียจนเห็นได้ชัดทำให้ Piers ต้องเข้ามาพูดให้ Chris ใจเย็นลง แต่ดูเหมือน Chris จะไม่ฟังใครทั้งนั้นเพราะเขาไม่อยากเสียลูกน้องไปอีกแล้ว ในขณะไล่ล่า B.O.W งูยักษ์ล่องหนไป ลูกทีมของ Chris ก็จะโดนเก็บไปทีละคนจนเหลือแค่ Piers และ Marco เท่านั้น ทุกคนจะไล่ล่ามันจนมันหนีมาถึงห้องกำเนิดไฟฟ้า รีบปีนขึ้นด้านบนแท่นควบคุม รอจังหวะให้ B.O.W งูยักษ์ล่องหน มันผ่านเข้ามาใกล้หม้อแปลงไฟ ฟังเสียงของ Piers ที่บอกว่า Do it Now ก็กดปุ่มได้เลย B.O.W งูยักษ์ มันจะถูกไฟช็อตจนตายในที่สุด จากนั้นเข้าไปในห้องด้านในต่อแต่จู่ๆ Ada ก็โผล่เข้ามาฉีด C – Virus ใส่ Marco อีกจนได้ ทำให้เขากลายร่างเป็น B.O.W ผึ้งมรณะ ยิงจัดการมันให้หมด แล้วเข้าไปเก็บระเบิด C4 จากศพของ Marco แล้วระเบิดทางออกไปต่อ ตอนนี้ลูกทีมของ Chris เหลือ Piers แค่คนเดียว แต่ความแค้นของ Chris ที่มีกับ Ada นั้นมากมายเป็นทวีคูณ จนเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ทำให้ต้องทะเลาะกับ Piers ที่พยายามเข้ามาพุดให้ Chris ใจเย็นลงเพราะเขาอยากได้ Chris หัวหน้าคนเดิมของเขากลับมาเหมือนเดิม Chris จึงติดต่อขอที่หลบซ่อนของ Ada กับฐานจนได้ที่อยู่ยืนยันมาแล้วว่า Ada อยู่ที่ท่าเรือทางตะวันตกของเมือง


เมื่อเดินทางมาถึงเขตท่าเรือที่นี่จะมีแต่พวก Sniper สุ่มยิงมากมายและพวก J’avo ที่กลายร่างได้อีกมากมาย ถ้าไม่อยากตกเป็นเป้าก็พุ่งไปที่ทางออกที่ประตูให้เร็วที่สุด เข้ามาจะพบ Ada อยู่บนเรือ แต่พวก J’avo มากมายและเฮลิคอปเตอร์ก็บุกเข้ามาไล่ยิง  รีบวิ่งเข้าไปที่ตึกภัตตาคารจีนฝั่งตรงข้ามขึ้นไปชั้นบนแล้วใช้ Grenade Launcher ยิงทำลายฮลิคอปเตอร์ซะแล้วรีบโดดหนีออกจากที่นี่ก่อนที่ตึกภัตตาคารจะระเบิดเป็นจุล จากนั้นลุยตาม Ada จนมาถึงโกดังที่เป็นที่ซ่อนของห้องทดลองลับ ตาม Ada เข้าไปด้านในผ่านกับดักเลเซอร์ด้วยการวิ่งสไลด์ผ่านไป ( กด A วิ่งแล้วตามด้วย LT เพื่อสไลด์) ทำลายเลเซอร์ออกจากห้องนี้ไปด้านในก็จะเจอหุ่นติดระเบิดออกมา รีบงัดแผงควบคุมที่กำแพงให้ Piers ทำการ Hack ระบบเพื่อเปิดประตู หลบหุ่นระเบิดไปมาอย่าอยู่กับที่จนกว่าประตูจะเปิดออก Chris และ Piers ไล่ตาม Ada ไปอย่างไม่ลดละจนตามเธอทัน แต่ก็กลับเจอความวุ่นวายขึ้นไปอีกเมื่อชนกับกลุ่มของ Leon และ Helena ที่ตาม Ada มาเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างก็ถามว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ Leon จะเล่าเรื่องตัวการใหญ่ที่ชื่อ Simmons ที่เขากำลังไล่ล่า ส่วน Chris ก็ตามล่า Ada ในฐานะมีข้อมูลสำคัญของ C Virus และเกี่ยวข้องอย่างเต็มๆกับองค์กรลับ Neo Umbrella .ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน  Ada ก็ฉวยโอกาศหนีไปอีกเช่นเคย Leon พยายามบอกกับ Chris ว่าเราทุกคนต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันและต้องเชื่อใจกับ Chris จึงให้ Leon ไปไล่ล่า Simmons ส่วนทีมของเขาจะไปตามจับ Ada ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป


Piers จะตามไล่ยิง Ada จนออกมาด้านนอกแต่ก็ไม่ทันเมื่อเธอขับรถหนีไปแล้ว Chris จึงให้ขับรถทหารที่จอดอยู่ใกล้ๆตามไปทันที โดยช่วงแรก Piers จะเป็นคนขับและ Chris จะเป็นคนยิงปืนกล ไล่ตาม Ada ไปตามทาง [ ซึ่งจะยิงยังไงก็ไม่วันโดนไม่ต้องกลัว ] เมื่อเห็นตามไม่ทันแล้ว Chris จะเปลี่ยนมาขับแทน [ RT – คันเร่ง / LT – เบรก / A - ใช้ Boost เร่งความเร็ว ] อย่าขับทิ้งระยะห่างมากพยายามเร่งเครื่องตาม Ada ไปให้ทัน จนรถพุ่งเข้ามาบนเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ใน Rear Hanger แรงระเบิดของรถทำให้ Chris สลบไปทันที


Chris Redfield Chapter 4: There’s Always Hope

Chris รู้สึกตัวจากการสลบไปไม่นานนัก เข้าตื่นมาเห็น Piers กำลังโดดพวกศัตรูเข้ามาทำลายจึงยิงช่วยเอาไว้ และก็จะพบศัตรูมากมายที่มาต้อนรับ Chris จะบอกให้ Piers ระวังตัวเป็นพิเศษเพราะศัตรูในครั้งนี้เป็น J’avo ที่ใส่ชุดเกราะเต็มยศในฐานะนักรบของ Neo Umbrella ด้านบนเครนจะมีพวกสไนเปอร์มากมายดักยิงอยู่ ลุยเข้าไปทางประตูซ้ายเข้าไปเก็บปืน Semi Sniper Rifle มาใช้ ขึ้นไปฃั้นบนส่องพวกสไนเปอร์บนเครนให้หมด แล้วลุยไปที่กลางเรือเป้าหมายคือตาม Ada ที่เข้าประตูด้านในไปแล้ว ลุยขึ้นไปตามเครนด้านบนระหว่างทางศัตรูปิดทางเข้าด้านในและปลดเครนให้แยกตัวออกจากกัน Chris  มีแผนที่จะใช้จรวดมิดไซด์ยิงถล่มเปิดทางเอาเอง รีบส่ง Piers ไปฝั่งตรงข้ามแล้วลุยย้อมอ้อมมาอีกด้านที่แท่นจรวด จัดการศัตรูให้หมดแล้วจุดชนวนจรวดยิงทำลายทางเข้าด้านขวาของเรือจนเป็นรู เมื่อลงมาที่กลางเรือจะพบพวก J’avo เล่นใช้เครื่องบินไอพ่นที่จอดอยู่ยิงปืนเข้าใส่ทันที อ้อมหลบมันแล้วลุยเข้าไปที่ทางเข้าทางขวาจะขึ้นไปที่ประตูทางเข้าชั้นบนของเรือได้


จากนั้นลุยเข้าไปด้านในตัวเรือตามห้องต่างๆตาม Ada ไปอย่างติดๆ เธอก็จะหนีขึ้นชั้นบนเรื่อยๆเหมือนกัน เมื่อตามเธอไปจนถึงดาดฟ้าเรือ Ada ก็หมดทางหนี เธอพยายามจะพูดให้ Chris สติแตกในปมเรื่องอดีตของเขาแต่ตอนนี้ Chris ตั้งสติได้แล้วที่จะไม่ฆ่าเธอและจะจับตัวเพื่อความยุติธรรมแทนที่จะด้วยแรงแค้น แต่ก็มีเฮลิคอปเตอร์ลึกลับบินโฉบเข้ามายิงใส่เธอจนตกลงไปตายที่ด้านล่างทันที Chris ถึงกับงงในเรื่องที่เกิดขึ้น Piers รีบค้นกระเป๋าเอกสารของ Ada จะพบหลอดเชื้อ C – Virus ที่ยังไม่ได้ใช้อีก 1 หลอด Chris จึงบอกให้เขาเก็บตัวอย่างเอาไว้ให้หน่วยเหนือวิเคราห์ จากนั้นทางฐานจะติดต่อมาว่าตอนนี้ระบบการยิงจรวดไวรัสกำลังทำงานแล้ว คำสั่งคือให้ทั้งคู่รีบไปหยุดยั่งการยิงจรวดไวรัสก่อนที่ประชาชนในเมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นซอมบี้เพิ่มไปอีก Chris จึงมีแผนที่จะใช้เครื่องบินเจ็ทที่จอดอยู่เพื่อขึ้นด้านบนจะเร็วที่สุด จึงมุ่งหน้าไปที่โรงเก็บเครื่องบินทันที แต่จะพบว่าทางเข้าจะต้องใช้โค๊ดรหัส 3 อันที่กระจัดการจายอยู่ตามห้องต่างๆของเรือนี้ ตามไปเก็บมาให้หมดด้านในทั้งมืดและซับซ้อนมากกว่าตลาดในเมืองจีนซะอีก แถมพวก B.O.W ก็ยังออกมาก่อกวนอยู่เรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งถ้าหลงแล้วงงจริงๆก็กด LB ดูลูกศรชี้ทางแล้วค่อยๆไปก็ได้ เมื่อหาจนครบแล้วก็นำมาเปิดประตูเข้าไปจนถึงโรงเก็บเครื่องบินไอพ่นได้เลย


Chris จะขับเครื่องบินขึ้นไปโดยมี Piers ทำหน้าที่ล็อกเป้ายิงจรวดมิดไซด์ เมื่อบินขึ้นไปแล้วก็หาจังหวะล็อกเป้าสีเขียวๆให้ได้แล้ว Piers ก็จะยิงถล่มเป้าหมายให้เอง และสามารถกด RB เพื่อหลบจรวดของศัตรูได้ด้วย ทำลายป้อมปืนให้หมดก่อนแล้ว Chris จะส่งให้ Piers ลงไปที่ดาดฟ้าเรือเพื่อเข้าไปปิดการทำงานจรวดไวรัสที่ห้องควบคุม พยายามใช้ปืนกลยิงคุมกันศัตรูให้เขาไปจนกว่าเขาจะระเบิดทางเข้าไปจนถึงห้องควบคุมและปิดการทำงานได้จรวดไวรัสได้สำเร็จ ในขณะที่ขากลับจะพบกับ Giant B.O.W ขนาดใหญ่ที่พวก Neo Umbrella ส่งเข้ามาอีก พยายามยิงต้านมันเอาไว้จนกว่า Piers จะมาถึงเครื่องบินและเขาจะทำการล็อกเป้ายิงเจ้า Giant B.O.W จนตาย ในขณะที่พวกศัตรูก็กดจุดชนวนปล่อยจรวดไวรัสออกไปได้ 1 ลูกทำให้ Chris แค้นมา ประกอบกับมีสายการติดต่อของ Leon เข้ามา เขาจึงรีบถามว่า ถ้า Leon อยู่ในเมืองก็รีบหนีออกไปให้ไกลที่สุดเลย  ในขณะที่จรวดที่บรรจุ C ไวรัส ก็พุ่งเข้าใส่ตัวเมือง ไอของไวรัสทำให้ผู้คนที่สุดดมเข้าไปกลายร่างเป็นซอมบี้ที่หิวโหย และ เมืองทั้งเมืองก็กลายเป็นนรกบนดินไปทันที โดยไม่มีใครหยุดยั้งมันได้เลย


Chris Redfield Chapter 5: Duty Calls
1 กรกฎาคม 2013 …… หลังจากการระเบิดของจรวด C – Virus ในเมือง แต่โขคดีที่ Leon และ Helena รอดจากระเบิดไวรัสเพราะอยู่ไกลจากเมืองค่อนข้างมาก Leon พยายามติดต่อไปหา Chris ที่อยู่บนเครื่องบินเจ็ทบนน่านฟ้าของเมือง เขาพยายามบอกให้ Chris ไปตามหา Sherry ที่อยู่ที่เขตน้ำตกเพราะเธอมีสิ่งที่จะหยุดยั้ง C Virus ได้ นั่นก็คือเลือด Anti - Virus ของ Jake ลูกชายของ Wesker ที่เดินทางไปพร้อมกับเธอนั่นเอง Chris ได้ยินคำว่า “ลูกชายของ Wesker “ ก็ทั้งตกใจและแปลกใจแต่ยังไงเขาก็รีบมุ่งหน้าไปตามหาทั้งคู่ทันที …


Chris และ Piers มุ่งหน้ามาจนถึงพิกัดที่ Leon ให้ไว้มาที่แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลจีนใต้เพื่อช่วยเหลือ Sherry และ Jake เมื่อลงลิฟต์ใหญ่มาใต้ทะเลจะพบว่ามันเป็นโรงงานขนาดใหญ่ใต้น้ำ พวก Neo Umbrella กำลังจะสร้างอะไรที่น่ากลัวอยู่ที่นี่อีกกันแน่ ระหว่างลงลิฟต์ Piers ก็อดที่จะพูดถึง Jake ไม่ได้ว่า น่าแปลกที่ผู้พ่อเป็นคนทำลายโลกแต่ลูกกลับกำลังช่วยโลกซึ่งมันขัดกันสิ้นดี …เมื่อลงมาจนถึงห้องควบคุม Chris จะเห็น Sherry และ Jake ถูกจับอยู่ในห้องทดลองลับใต้พื้นที่นี้โดยจอมอนิเตอร์ เขาจึงรีบปลดปล่อยพวกเขาทันที สัญญาณเตือนภัยจะเริ่มดังขึ้นพร้อมการเข้ามาของ Neo Umbrella มากมาย มุดเข้าไปด้านในช่องระบายอากาศจะพบพัดลมขนาดใหญ่อยู่ ส่ง Piers ไปฝั่งตรงข้ามเพื่อปิดระบบพัดลมแล้วรีบมุดลอดผ่านพัดลมไปตามทางจนถึงลิฟต์ขึ้นไปด้านบนช่วย Piers แล้วกลับลงลิฟต์มาเข้าประตูด้านในไปต่อ ลุยเข้าไปจนถึงทางเข้าห้องทดลองลับที่อยู่แยกไปจากตัวโรงงานนี้ เมือกดเปิดประตูศัตรูจะเริ่มบุกมามากมาย ต้านพวกมันเอาไว้จนกว่าประตูจะเปิดออก เข้าไปด้านในจะกับ Sherry และ Jake


ขณะนั้น Chris ที่รู้ความจริงแล้วว่า Jake เป็นลูก Wesker จึงถามไปตรงๆว่าเคยเจอกับพ่อมั๊ย ทำให้ Sherry เริ่มกังวลใจกลัวว่าจะทะเลาะกัน Jake จึงถามกลับไปว่า Chris เคยเจอพ่อของเขาหรอ Chris เองก็ตอบตรงไปว่าเคยเจอสิและเขาเองเป็นคนฆ่า Wesker เองเมื่อ 3 ปีก่อน ถึง 2 ครั้งด้วย ทำให้ Jake ฉุนจนควักปืนขึ้นมาจ่อหัว Chris ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้หวาดกลัวแถมท้าให้ Jake ยิงได้เลยเพราะถ้าเขาไม่ฆ่า Wesker จะมีคนตายอีกมากมาย ในขณะนั้นเองโรงงานจะเริมถล่ม ทุกคนจึงต้องรีบหนีออกจากที่นี่กันก่อนซึ่ง Jake และ Chris ยังมีเรื่องที่ต้องคุยกันต่ออีกเยอะ ทุกคนจะเข้ามาที่โดมห้องโถงขนาดใหญ่ที่มี ดักแด้ Cocoon ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง สำรวจแท่นควบคุมทั้ง 4 จุดพร้อมๆกันจะทำให้ลิฟต์วงแหวนเริ่มเลื่อนขึ้นด้านบน พวก Neo Umbrella จะบุกเข้ามาทันที พยายามเอาตัวรอดไปจนกว่าลิฟต์จะสุดทางที่ด้านบน แต่ ดักแด้ Cocoon ขนาดใหญ่ก็เริ่มฝักตัวออกมาเป็น B.O.W ขนาดใหญ่ที่รูปร่างคล้ายปลาหมึกออกมา มันเข้าโจมตีใส่ทั้ง 4 คนทันที Jake จะดึงตัว Sherry ให้ไปทำงานต่อให้เสร็จ Chris และ Piers จึงต้องเผชิญห้ากับ B.O.W ขนาดใหญ่กันเอง รีบปีนบันได่ขึ้นมาด้านบนวิ่งหนีสุดแรงหนีการไล่ล่าของ B.O.W ที่ตามทุกทำลายมาจากด้านหลัง พยายามใช้การสไลด์ผ่านท่อไปจะเร็วกกว่าปีนมาก เมื่อหนีไปจนถึงลิฟต์แล้ว ขึ้นมาชั้นบนเจ้า B.O.W ก็ยังตามขึ้นมาอีก รอบแรกที่เจอกันยิงมันไปแบบธรรมดาเรื่อยๆมันก็หมอบแล้ว จากนั้นหนีเข้าไปตามทางเดินยาวซึ่งเจ้า B.O.W ก็ยังตามออกมาทุบทำลายจากด้านนอกจนน้ำเริ่มเข้ามา รีบวิ่งหนีผ่านเข้าประตูชัตเตอร์ที่กำลังปิดทีละชั้นเรื่อยๆให้ทันจนถึงด้านใน Chris จะช่วย Piers แล้วพาเข้าไปด้านในโกดังเก็บของเพื่อหาทางขึ้นยานอพยพออกจากที่นี่


แต่ B.O.W ปลาหมึกยักษ์ก็ตามเข้ามาอีกจนได้ มันเข้ามาโจมตีใส่ Piers จนเหล็กเข้าไปเสียบที่แขนจนบาดเจ็บหนักแถมมันยังจับตัว Chris และกำลังจะบีบให้ตายคามือ Piers สังเกตเห็นหลอด C – Virus ที่หลุดออกมาจากกระเป๋า ไม่มีทางเลือก Piers จึงตัดสินใจฉีด C – Virus เข้าตัวเพื่อกลายร่างเป็น B.O.W ที่มีพลังสายฟ้าแล้วช่วยเหลือ Chris เอาไว้ได้ คราวนี้ต้องกำจัดมันจริงๆซะทีแล้ว จุดอ่อนของ B.O.W ปลาหมึกยักษ์มันจะอยู่ที่หัวใจจุดแดงๆทั้ง 2 ข้างของลำตัวมันซึ่งจะยิงค่อนข้างยากมากและกระสุนในพื้นที่ก็ยังน้อยและมีจำกัดอีกด้วย เมื่อยิงหัวใจมัน 2 ด้ายจนแตกหมดแล้ว มันจะเข้าดักแด้ Cocoon เพื่อฝักตัวใหม่ จังหวะที่มันเข้าดักแด้ก็รีบทำลายดักแด้ทันทีแล้วมันจะหลุดออกมาให้สามารถเข้าไปใช้มีดแทงมันได้เต็มๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนมันตาย

หลังจบการต่อสู้ Piers ก็บาดเจ็บสาหัส เขาบอกกับ Chris ให้ทิ้งเขาไว้ที่นี่แต่ Chris ไม่ยอมพยายามจะพยุงเข้าหนีไปด้วยกันเพื่อหาทางรักษา แต่เมื่อถึงหน้าทางเข้ายานอพยพ Piers จึงยัดอาร์มของเขาใส่ในมือ Chris แล้วดันเขาเข้ายานหนีภัยออกไปคนเดียว แต่ B.O.W ปลาหมึกยักษ์ก็ยังว่ายน้ำตามไปอีก Piers จึงใช่พลังทั้งหมดดึง B.O.W ปลาหมึกยักษ์ ลงมาให้มาตายเป็นกับระเบิดพร้อมกับตัวเขาไปเลย

 Chris รอดขึ้นมาเหนือน้ำได้สำเร็จ แสงแดดยามเย็นไม่ทำให้เขามีความสุขอีกแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้จบลงคงเหลือไว้แค่อาร์มของ Piers ลูกน้องคนสุดท้ายของทีม Alpha คนสุดท้ายที่เพิ่งตายจากไป และความแค้นสุมอกกับ Neo Umbrella ที่เพิ่มขึ้นอีกมากมายมหาศาล

Chris นั่งกินสเต็กของโปรดของ Piers แทนดื่มเหล้าเมามาย ลูกน้องทีม Alpha ชุดใหม่เดินเข้ามาตาม Chris เข้าสู่ภาระกิจครั้งใหม่ ซึ่ง Chris ก็พร้อมแล้วที่จะเดินสู่แสงสว่างและพร้อมแล้วที่จะมอบความมืดมิดให้กับ Neo Umbrella และ B.O.W ทุกตัวบนโลกใบนี้

 Jake Muller Campaign

 Jake Muller Chapter 1: Money Talks

24 ธ.ค 2012 …. สาธารณรัฐ Edonia ในรุโรปตะวันออก   แหล่งกบดานของพวกทหารรับจ้างที่ทำงานให้กับกองทัพต่อต้านรัฐบาล La Vita Nuova อยู่ที่สาธารณะรัฐ Edonia  ซึ่งเกิดเหตุน่ากลัวขึ้นเมืองทหารรับจ้างส่วนใหญ่ถูกจับให้ฉีดยาบางอย่างทำที่มีเชื้อของ C Virus ไวรัสชนิดใหม่ที่มีโดยหญิงลึกลับที่ลอบนำไปเจือปนเข้าไปในเซรุ่ม ซึ่งจะทำให้ทหารมีความแข็งแกร่งในการรบ แต่ผลออกมากลับทำให้ทหารบ้าคลั่งกันจนสร้างความวุ่นวายไปทั่ว แต่ก็แปลกที่เจคไม่ได้รับผลกระทบใดๆกับยานั่นเลยซึ่งเป็นเพราะเลือดพิเศษที่เป็นเซรุ่มในตัวเขานั่นเอง ระหว่างที่กำลังหนีเอาตัวรอดจากพวกทหารบ้าคลั่งนั้นก็ได้พบกับ เชอรี่ เบอร์กิ้น ลูกสาวของ Dr. วิลเลี่ยม เบอร์กินผู้คิดค้น G Virus ในภาค 2 ที่ถูกรัฐบาลสหรัฐกักตัวเอาไว้ แต่ด้วยเชื้อ G ที่ถุกฝั่งเอาไว้ในตัวเธอทำให้รัฐบาลสหรัสต้องยอมปล่อยตัวเธอและมอบหมายงานเป็นสายลับให้ โดยภาระกิจของเชอรรี่คือพาตัวเจคให้มากับเธอ เพราะเลือดพิเศษของเขาเป็นเซรุ่มที่สำคัญที่สุดที่สามารถช่วยโลกได้ตอนนี้  ซึ่งเจคก็ยอมรับปากที่จะไปแต่ต้องได้เงินค่าจ้าง 50 ล้านดอลลาร์  ก่อนที่ทั้งคู่จะหนีออกจากสมรภูมินรกนี้ไปด้วยกัน


ในตัวเมืองจะมีหน่วย BSAA เข้ามาเพื่อปราบปรามและกำจัด J’avo B.O.W ชนิดใหม่ที่เริ่มเกิดขึ้นที่ ( ซึ่ง Chris เป็นคนนำทีมเข้าปฏิบัติงานี้ด้วยนั่นเอง ) พวกเขาจะยิงถล่มแหลกแบบไม่สนใครเป็นใคร Jake และ Sherry จึงต้องหนีเอาตัวรอดทั้งจากกานโจมตีของ หน่วย BSAA และพวกทหารรับจ้าง J’avo ลุยเข้าไปตามบังเกอร์ ความสามารถของ Jake นอกจากการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแล้วยังมีพลังตัวเบาเป็นเลิศในการโดดเกาะไม้ต่างๆได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า Sherry นั้นทำไม่ได้ จึงต้องคอยทำทางพาเธอปีนขึ้นมาตามที่สูงด้วยตลอดทาง เมื่อเข้ามาจนถึงบังเกอร์ด้านในจะพบกับ Ustanak B.O.W จอมพลังขนาดใหญ่ที่มีแขนเป็นจักรกลและพร้อมที่จะทำลายทุกอย่างที่ขว้างหน้าเหมือนกับว่ามันถูกส่งมาให้ตามล่าใครบางคนอยู่ และตอนนี้มันก็เห็น Jake และ Sherry แล้ว วิ่งหนีการไล่ล่าของมันให้พ้นแล้วทั้งคู่จะเข้ามาในซากตึกแห่งหนึ่ง จัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นไปเก็บปืนแม็กนั่มที่ชั้น 2 มาก่อน แล้วเข้าไปสำรวจประตูด้านใน เจ้า Ustanak จะตามมาถึงที่นี่แล้ว พยายามวิ่งหนีแล้วใช้ถังน้ำมันให้ระเบิดโดนมันแล้วยิงไปเรื่อยๆมันจะทุบพื้นจนถล่มทำให้ Jake และ Sherry ตกลงไปชั้นล่าง


มุดตามอุโมงค์จนมาออกที่อีกฝากของเมืองจะพบกับทีมของ Chris พอดี ซึ่ง Sherry จะจำเขาได้เพราะ แคลร์ น้องสาวของเขาเคยช่วยเธอเอาไว้ในเหตุการ์ณที่ raccoon City แต่ตอนนี้เธอจะมาในฐานะ National Security ของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่ง Chris หันไปสนใจกับหน้าตาที่คุ้นเคยของชายที่ตามเธอมาด้วย ซึ่งก็คือ Jake Muller นั่นเอง ระหว่างที่ฐานแจ้งมาว่าให้ไปทำลายปืนต่อสู้อากาศยานของพสกศัตรูตามจุดต่างๆ Giant B.O.W ขนาดใหญ่ ก็บุกเข้ามาอีกครั้ง จากนั้นตามทหารที่นำทางไปยังป้อมปืนแรก เขาจะเข้าไปทำการวางระเบิด จัดการต้าน Giant B.O.W เอาไว้จนเขาติดตั้งระเบิดเสร็จ Giant B.O.W มันก็จะโดนระเบิดไปด้วย ตามทหารไปที่จุดป้อมปืนที่ 2 ต้านพวก J’avo ที่บุกเข้ามาเอาไว้รอให้ ติดตั้งระเบิดเสร็จจนทำลายป้อมปืนลงได้ ตามไปที่จุดที่ 3 จะพบ Giant B.O.W อีกตัวออกมา รอทหารวางระเบิดทำลายป้อมปืนจนเสร็จแล้วขึ้นนั่งร้านไปยิงจัดการ Giant B.O.W ซะ เมื่อทุกอย่างปลอดภัยแล้ว  Sherry และ Jake ก็จะเดินทางต่อ ซึ่ง Chris ก็อดไม่ได้ที่จะถาม Jake ส่าเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า แต่ก็จะได้คำตอบที่ยียวนกลับมาจนได้


Sherry และ Jake ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่หน่วยงานของเธอมารอรับ ระหว่างทาง Jake รู้สึกอะไรบ้างอย่างกับ Chris จึงถามกับ Sherry เธอเล่นว่า แคลร์ น้องสาวของ Chris เคยช่วยเธอเอาไว้ในเหตุการ์ณที่ Raccoon City และเป็นคนที่เธอไว้ใจที่สุดคนนึง แต่ก็แปลกที่ Jake รู้สึกหงุดหงิดกับ Chris มากกว่า …ระหว่างที่คุยกับพวก Neo Umbrella ก็ส่งเจ้า Ustanak โดดตามมาเยี่ยมถึงเฮลิคอปเตอร์เลย มันพยายามจะพังเข้ามา ยิงมันจนกว่ามันจะหนีไปเกาะฮลิคอปเตอร์ของพวกศัตรูแล้วยิงถล่มมาด้วยปืนกล ใช้ปืนกลบนฮลิคอปเตอร์ยิงทำลายฮลิคอปเตอร์ที่มันเกาะอยู่ให้ร่วงให้หมด แต่เฮลิคอปเตอร์ของ Jake ก็กำลังจะระเบิด Jake รีบหยิบร่มขูชีพแล้วดึงตัว Sherry โดดหนีไปด้วยก่อนเฮลิคอปเตอร์จะระเบิดได้ทันพอดี


Jake Muller Chapter 2: A Revolting Development

ทั้งคู่ตกลงมาที่ภูเขาน้ำแข็งแห่งหนึ่ง Jake ฟื้นขึ้นมาจะพบว่า Sherry มีบาดแผลหนักโดยเหล็กทิ่มอยู่ที่กลางหลัง เขาลังเลที่จะดึงแผ่นเหล็กออกมาแต่ก็ต้องตกใจเมื่อแผลของ Sherry กลับค่อยสมานกันเองจนหายดี Jake พยายามจะถามว่า Sherry เป็นอะไรกันแน่แต่เธอก็ตอบได้แค่ว่า เรื่องมันยาว เท่านั้นเอง เมื่อ Sherry เช็คโทรศัพท์ดูจะพบว่าข้อมูลตัวอย่างเลือดและทุกอย่างของ Jake ที่ได้มาหล่นหายไปหมด ทำให้ต้องไปตามเก็บกลับมา ในพื้นที่ภูเขาหิมะนี้จะเต็มไปด้วยพายุหิมะที่ขาวโพรนจนแทบไม่เห็นทาง แถมยังมี J’avo ที่กลายร่างเป็น B.O.W ชนิดบินได้เข้าไปอีกจึงอันตรายสุดๆ ถ้าทองไม่เห็นก็ใช้ระบบชี้ทาง (กด LB) หาเส้นทางไปเก็บ Data Chip มาให้ครบ 3 อันแล้วเข้าประตูไปที่แค้มป์ด้านในต่อ ทั้งคู่จะเข้าไปหลบพายุหิมะที่กระท่อมร้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่มีโอกาศได้คุยกัน Jake ถามถึงเรื่องอดีตในวัยเด็กของเธอ ซึ่งเธอบอกได้แค่ว่า เธอเป็นลูกสาวของ Dr. วิลเลี่ยม เบอร์กินผู้คิดค้น G Virus จนเกิดความเลวร้ายขึ้นที่เมือง Raccoon มาแล้ว ส่วน Jake ก็ไม่รู้เรื่องราวของตัวเองและพ่อของตัวเขามากนัก ในขณะนั้นพวก Neo Umbrella ก็บุกเข้ามามากมายจนต้องลุยออกมานอกบ้าน ก็จะพบหิมะถล่มเข้ามาซ้ำเติมอีก รีบขี่สโนวโมบิลหนีไปตามเส้นทางให้ทันแล้วทั้งคู่จะหลบเข้ามาในถ้ำที่ตีนเขา


ที่แค้มป์ด้านล่างจะมีประตูทางเข้าถ้ำซึ่งมันจะพาทะลุผ่านไปอีกด้านของภูกเขาที่หน้าเขตเมืองได้ แต่คนถึง Key card ก็ดันโดนเจ้า Ustanak อัดจนตายคามือไปแล้ว ในพื้นที่จะมีเจ้า Ustanak อยู่และมีแมลงแสงที่เมื่อมันพบเราขึ้นมามันจะส่องแสงให้ เจ้า Ustanak ตามมาอัดจนตายได้ทันที เป้าหมายคือ จัดการพวกแมลงแสงพวกนี้จากด้านหลังโดยใช้การต่อยและห้ามใช้ปืนและส่งเสียงดังเด็ดขาด ลอบจัดการพวกแมลงแล้วใช้กล่องหลบ ลอบเข้ามาด้านในแค้มป์จนถึงจุดที่มี Key card ตกอยู่ แต่จะมี Ustanak เฝ้าอยู่กลางลานน้ำแข็งด้วย เก็บระเบิดรีโมทแถวๆนี้มาแล้วดันตัว Sherry ข้ามตู้ข้ามไปอีกด้าน แล้วรีบติดระเบิดที่ที่พื้นข้างตู้ หลบมาทางขวาก่อนแล้วค่อยกดระเบิดจะทำให้เจ้า Ustanak มันวิ่งมาดู ทำให้ Sherry เก็บ Key card มาได้สำเร็จ รอเธอปีนกลับมาแล้วไขเปิดทางเข้าถ้ำด้านใน ทันทีที่เปิดประตู เจ้า Ustanak จะได้ยินเสียงและตามมาทันที รีบเปิดประตูหนีมันเข้าไปทีละชั้น แล้วด้านในจะพบรถขุดเจาะอยู่จัดการใช้สว่านชน Ustanak ที่ตามมาให้หมอบไปได้เลย เมื่อทั้งคู่ออกมาด้านหน้าถ้ำจะเริ่มเห็นเมืองอบู่ใกล้ แต่ Ustanak ก็ตามมาและซัด Sherry จนกระเด็นและสลบไป Jake โดนมันจับเอาไว้ได้ Ada ปรากฏตัวออกมา และบอกถึงเลือกพิเศษในตัวของ Jake ที่ได้มาจากความเป็นทายาทของ Albert Wesker คนที่คิดจะทำลายโลกนี้ด้วยไวรัสนั่นเอง นั่นเป็นครั้งแรกที่ Jake ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อของเขาก่อนจะโดนอัดจนสลไป


Jake Muller Chapter 3: Let blow this joint30 มิ.ย 2513 ….  6 เดือนต่อมา  [ช่วงเวลาเดียวกับที่ Chris กลับมาปฏิบัติการ์ณอีกครั้งหลังจากหายตัวไป]
Research Facility ห้องทดลองลับแห่งหนึ่งในประเทศจีน . Sherry กับ Jake ถูกพวก Neo Umbrella จับมาขังไว้ที่นี่  หลังจากที่หาโอกาสมานาน Jake ก็สบโอกาสตอนที่กำลังมีการพาตัวไปตรวจเลือด จึงใช้วิชาการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่เขาถนัดจัดการพวก Neo Umbrella จนหลุดจากการควบคุมได้ หลังจากที่ Jake ปิดระบบพลังงานทั้งหมดของชั้นนี้ ประตูห้องขังของ Sherry ก็จะเปิดออกเช่นกัน เธอก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวและกระบองไฟฟ้าหนีออกมาจากห้องได้เช่นกัน ..


ลุยจัดการศัตรูที่เข้ามาด้วยมือเปล่าเข้าไปในห้องในสุดจะพบช่องระบายอากาศเปิดอยู่ ดันแท่นยืนทางขวาของห้องมาใช้ปีนขึ้นไปจนทะลุมาออกที่ห้องควบคุมด้านใน เข้าห้องสำรวจดูกล้องจากมอนิเตอร์ จะสามารถใช้ปืนจากกล้องยิงจัดการพวกศัตรูได้ เมื่อกดสลับไปมา (A) ก็จะเห็น Sherry กำลังหนีออกมาเช่ากัน ยิงคุ้มกันให้เธอแล้วเธอจะกดรหัสเปิดประตูแล้วเข้าไปด้านใน ซูมกล้องดูรหัสกดที่ประตูแล้วเอามากดรหัสเปิดประตูทางออกของที่นี่ออกไปได้


มุดเข้ามาจนมาออกที่ห้องแต่งตัวก็จะพบ Sherry เมื่อทั้งคู่แต่งตัวและได้อาวุธคืนมาแล้ว Jake ยังคงคาใจที่จะถาม Sherry ถึงเรื่อง Wesker พ่อของเขาที่มีแผนจะทำลายโลก ทำให้ Sherry ต้องปลอบใจว่าพ่อก็ส่วนพ่อลูกก็ส่วนลูก จากนั้นเข้าไปด้านในจนมาออกที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งดูจากรูปแบบการสร้างแล้วรู้ทันที่ว่าทั้งคู่ยังอยู่ในประเทศจีน เมื่อเข้ามาแล้วจัดการ B.O.W ตัวแรกที่ออกมาจะได้ เหรียญ I.D Medal  มา จากนั้นลุยเข้าไปด้านใน ( ระหว่างทางถ้าเจอ เหรียญ I.D Medal ก็เก็บมาไว้ก่อนแล้วกัน ) จนถึงห้องโถงใหญ่จะพบรูปปั้นที่ใส่เหียญอยู่กลางห้อง นำเหรียญ I.D Medal ใส่เข้าไป 3 เหรียญประตูที่ชั้น 2 ทางซ้ายจะเปิดออก เข้าไปตามทางลุยหาเก็บ เหรียญ I.D Medal มาให้ได้อย่างน้อย 7 เหรียญ แล้วกลับมาใส่ที่รูปปั้นที่ห้องโถงอีก 7 รวมของเดิมเป็น 10 เหรียญ ประตูรูปเหรียญทางขวาของชั้นนี้จะเปิดออก เข้าไปด้านในจะเป็นห้องข้อมูล Sherry จะโหลดข้อมูลมาเก็บเอาไว้ แล้วโทรรายงานกับ Simmons ทันที เมื่อกลับมาที่ห้องโถงทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อมีรถถังบุกทะลุเข้ามาไล่ล่าพวกเขาถึงในนี้เลย รีบหนีเข้าไปยังสวนกลางของอาคาร ขึ้นไปชั้น 2 กดสวิตซ์หมุนรูปปั้นแล้วเกาะโหนไปฝั่งตรงข้าม ขึ้นไปห้องโชว์รูมด้านบน ขี่รถมอเตอร์ไซด์มารับ Sherry แล้วทั้งคู่ก็ขับหนีออกจากที่นี่ทันที


Jake Muller Chapter 4: Still on the Run

Jake พา Sherry ขี่มอเตอร์ไซด์หนีออกมาที่ถนนในเมือง Waiyip พวก Neo Umbrella ก็ยังส่งเฮลิคอปเตอร์และแก็งค์มอเตอร์ไซด์ตามอย่างไม่ลดละ พยายามขี่หนีและหลบสิ่งกีดขวางไปให้ได้ตลอดทาง จนมาถึงเขตก่อสร้างเฮลิคอปเตอร์ ก็ยังตามมายิงถล่มใส่อีกพร้อม J’avo ที่ตามมาล้อมหน้าล้อมหลังอีกมากมาย แต่ยังโขคดีที่ทีมของ Chris มองอยู่ด้านบนของนั่งร้านเขาจึงช่วยยิงสนับสนุนให้ แต่ดูเหมือน Jake จะไม่ต้องการความช่วยเหลือจาก Chris เลยซักนิด พยายามเอาตัวรอดจาก j’avo ที่เข้ามาให้ได้ส่วนเฮลิคอปเตอร์นั้นปล่อยเป็นหาที่ของ Chris จัดการ รอจนกว่าเขาจะใช้ Grenade Launcher ยิงทำลาย เฮลิคอปเตอร์ ให้พ้นทาง แล้วพวกของ Sherry และ Jake ก็จะเข้าด้านในต่อได้ Jake ได้แต่มองหน้า Chris โดยไม่ได้กล่าวขอบคุณเลยแม้แต่นิด เขายังถาม Sherry ว่า Chris นั้นรู้เรื่องพ่อของเขาที่ชื่อ Wesker มั๊ยเพราะเขารู้สังหรณ์ใจแปลกมาตลอด


เดินลุยผ่านซอยเล็กจนมาออกที่ถนนที่เต็มไปด้วย j’avo มากมายจัดการลุยปีนขึ้นไปด้านบนแล้วโดดลงไปที่อีกฝั่งของประตูแล้วเปิดให้ Sherry เข้ามาที่ตัวตึกด้านใน ระหว่างทางเก็บปืน Shotgun มาใช้แล้วออกไปที่ถนนจะเห็นเครื่องบินโดยสารตกลงไปที่อีกฝากของเมือง แต่ B.O.W ที่มีแขนเป็นเลื่อยออกมาโจมตี ท่ามกลางกองไฟต้องพยายามจัดการมันให้ได้ จากนั้นเข้าไปด้านในต่อจนถึงจุดที่เครื่องบินตกจะพบกับ Leon และ Helena ทีนี่  ดูเหมือน Jake จะไม่ค่อยไว้ใจในตัว Leon มากนัก Leon พยายามจะบอกกับ Sherry ว่า Simmons หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระบาดของ C Virus ในครั้งนี้ด้วย ทำให้ Sherry ตกใจมากเพราะเธอก็ทำงานให้กับหน่วยงานของ Simmons เหมือนกัน ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเริ่มเข้าใจผิดกันและกัน มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ Ustanak ที่ดูเหมือนจะตามไล่ล่า Jake มาตลอดก็เข้ามาโจมตีอีกครั้ง ทุกคนทันที ช่วยกับระดมยิง Ustanak จนสามารถจัดการมันลงได้ แต่แรงระเบิดก็ทำให้เสาขนาดใหญ่ล้มมากั้นทางระหว่าง Leon และ Sherry เอาไว้ จนต้องแยกกันเดินทางอีกครั้ง แต่ด้วยความไว้ใจ ก่อนจะจากกันด้วยความที่ Sherry นั้นเชื่อใจ Leon เป็นอย่างมากมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงยอมบอกที่อยู่ของ Simmons ให้ด้วย


ทั้งคู่เดินทางต่อจนมาถึงเขตท่าเรือที่เละเทะไปด้วยฝีมือของทีมของ Chris ที่เคยมาผ่านมาแล้ว เมื่อขับเรือเข้ามาที่ซากอาคารด้านในจะพบ B.O.W เลื่อยโหดออกมาโจมตีอีกครั้ง แต่ก็มีกระสุนปริศนาจะใครบางคนที่ยิงช่วยทั้งคู่เอาไว้ ทั้งคู่ช่วยกันสู้และหนีการไล่ล่าของ B.O.W เลื่อยโหดและสามารถจัดการมันลงได้ด้วยการช่วยของหญิงปริศนาคนหนึ่ง  ..ในระหว่างการเดินทางต่อ Sherry จะเริ่มไม่สบายใจในเรื่องที่ Leon พูดถึง Simmons จนเธอลังเลที่จะทำตามคำสั่งที่ได้รับมาแล้ว จน Jake ต้องพูดปลอบใจว่า Sherry ควรทำในสิ่งที่ใจเธอต้องการจะทำ Sherry บอกกับ Jake ไว้ก่อนว่าถ้าไปถึงที่ตึกเป้าหมายที่เป็นที่อยู่ของ Simmons แล้วถ้าทุกอย่างที่ Leon พูดเป็นความจริงก็ให้ Jake หนีไปได้ทันที จากนั้นเมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงตึกที่อยู่ของ Simmons เข้ามาในตึก Kwun Lung จะพบกับ Simmons ที่กำลังหลบหนี พร้อมกับ Sherry และ Jake ที่เดินทางมาที่นี่เหมือนกัน มันสั่งลูกน้องให้ระดมยิงโจมตีเข้ามาใส่อย่างไม่ยั้ง ในขณะที่ Sherry พยายามถามหาความจริงถึงเรื่องแผนการร้ายที่ Simmons ได้ก่อขึ้นซึ่งมันเองก็ยอมรับแต่โดยดี เมื่อ Sherry รู้เช่นชาติเจ้านายของเธอแล้ว เธอจึงยอมมอบ Data Chip ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ C Virus และผลเลือด Antibodies ของ Jake ที่จะใช้เป็นยารักษาให้ไว้กับ Leon ทั้งหมด Leon จะบอกให้ Jake พา Sherry หนีไปก่อนส่วนเขาจะจัดการ Simmons เอง แต่ในขณะที่ทั้ง 2 คนกำลัวหนีพวก J’avo จนนวนมากก็เข้าล้อมเอาไว้แล้วจับ Jake และ Sherry เอาไว้จนได้



Jake Muller Chapter 5: See you around

Jake และ Sherry ถูกจับมาไว้ที่ห้องทดลองลับใต้ทะเลแห่งหนึ่ง จู่ๆสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทำให้ทั้งคู่หลุดออกจากการถูกมัด ซึ่ง Jake ไม่รู้เลยว่า Chris ได้ช่วยเขาเอาไว้ จากนั้นดัน Sherry ให้ขึ้นไปบนท่อระบายอากาศให้เธอออกไปที่ห้องกลางเก็บอาวุธและเปิดประตูทางออกให้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วหนีออกไปด้านนอก เป้าหมายของทั้งคู่คือหนีออกจากที่นี่แล้วเอาตัวอย่างเลือดของ Jake ไปทำเซรุ่มเพื่อหยุดยั้งการระบาดของ C – Virus ให้เร็วที่สุด …

ออกมาจนถึงส่วนของลิฟต์หมุน ในชั้น B สำรวจที่ลิฟต์ใหญ่ตรงกลางจะพบว่ามันไม่มีพลังงานจึงต้องทำการชาร์ทพลังงานของแบตเตอรรี่ตามจุดต่างๆเพื่อให้มันกลับมาทำงานได้อีกครั้ง

- สับคันโยกแรกตรงลิฟต์เพื่อชาร์ตแบตครั้งที่ 1

- โดดขึ้นลิฟต์หมุนไปเข้าห้อง A  เข้าไปชาร์ตแบตครั้งที่ 2

- แล้วโดดขึ้นลิฟต์หมุนไปเข้าห้อง C  เข้าไปชาร์ตแบตครั้งที่ 3

- โดดขึ้นลิฟต์หมุนไปเข้าห้อง D เก็บไอเทมมาให้หมดแล้ว ดูลิฟต์หมุนให้ดีเพระมี 2 อันคือล่างและบน ให้รอโดดขึ้นอันบน แล้วโดดเข้าห้อง H ในขณะที่ Sherry เธอเข้าไปรอสับคันโยกที่ห้อง I แล้ว

- เข้าทางห้อง H เพื่อลุยมาถึงห้อง G ที่มันเข้าจากด้านนอกไม่ได้ ซึ่งต้องสับคันโยกพร้อมกับ Sherry ในห้อง I ข้างๆ แต่พอศัตรูออกมาพอยิงมันแล้วมันดันไปล้มทับแท่นควบคุมจนพังทำให้ลิฟต์หมุนไปจนควบคุมไม่ได้ วิ่งไปสับสวิตซ์ให้มือจับด้านนอกจับลิฟต์เอาไว้ แล้วโดดขึ้นลิฟต์ไปรีบหนีกลับไปเข้าห้อง B ให้เร็วที่สุดก่อนมันจะพังลงมา ทั้งคู่ก็จะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนได้สำเร็จ


เข้าไปห้องด้านในจะพบกับทีมของ Chris  ซึ่งขณะนี้ Chris รู้ความจริงแล้วว่า Jake เป็นลูก Wesker จึงถามไปตรงๆว่าเคยเจอกับพ่อมั๊ย ทำให้ Sherry เริ่มกังวลใจกลัวว่าจะทะเลาะกัน Jake จึงถามกลับไปว่า Chris เคยเจอพ่อของเขาหรอ Chris เองก็ตอบตรงไปว่าเคยเจอสิและเขาเองเป็นคนฆ่า Wesker เองเมื่อ 3 ปีก่อน ถึง 2 ครั้งด้วย ทำให้ Jake ฉุนจนควักปืนขึ้นมาจ่อหัว Chris ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้หวาดกลัวแถมท้าให้ Jake ยิงได้เลยเพราะถ้าเขาไม่ฆ่า Wesker จะมีคนตายอีกมากมาย Jake จะถาม Chris ไปว่าที่ฆ่า Wesker ไปนั้นเพราะหน้าที่หรือความแค้นส่วนตัว ซึ่ง Chris ตอบไปมา ทั้ง 2 อย่าง ทำให้ Jake แค้นมากแต่ก็สงบใจเอาไว้ได้เขาทำไก้แค่ยิงปืนถากแก้มของ Chris ไปเท่านั้น  ในขณะนั้นเองโรงงานจะเริ่มถล่ม ทุกคนจึงต้องรีบหนีออกจากที่นี่กันก่อนซึ่ง Jake และ Chris ยังมีเรื่องที่ต้องคุยกันต่ออีกเยอะ ทุกคนจะเข้ามาที่โดมห้องโถงขนาดใหญ่ที่มี ดักแด้ Cocoon ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง สำรวจแท่นควบคุมทั้ง 4 จุดพร้อมๆกันจะทำให้ลิฟต์วงแหวนเริ่มเลื่อนขึ้นด้านบน พวก Neo Umbrella จะบุกเข้ามาทันที พยายามเอาตัวรอดไปจนกว่าลิฟต์จะสุดทางที่ด้านบน แต่ ดักแด้ Cocoon ขนาดใหญ่ก็เริ่มฝักตัวออกมาเป็น B.O.W ขนาดใหญ่ที่รูปร่างคล้ายปลาหมึกออกมา มันเข้าโจมตีใส่ทั้ง 4 คนทันที Jake จะดึงตัว Sherry ให้ไปทำงานต่อให้เสร็จ Chris และ Piers จึงต้องเผชิญห้ากับ B.O.W ขนาดใหญ่กันเอง ซึ่ง Sherry จะต่อว่า Jake ที่ไม่ยอมช่วยพวกของ Chris แต่ Jake จะบอกไปว่า รับรองว่าเขาไม่เป็นเหมือนพ่อแน่ๆ เพราะฉะนั้นเรารีบไปช่วยโลกนี้กันก่อนเถอะ


ทั้งคู่หนีออกมาถึงห้องหลอมลาวา พอเข้ามาด้านในก็จะพบ Ustanak ที่ตามมาถึงที่นี่แล้วเหมือนกัน Jake เองก็เบื่อที่จะหนีมันแล้วจึงบอก Sherry เขาจะตัดสินกับมันที่นี่เลยแล้วกัน พยายามอยู่ห่างๆมันแล้วระดมยิงไปเรื่อยๆก็จะทำให้มันล้มลงได้ แต่มันก็ยังพุ่งเข้ามาใส่ Jake จนหล่นไปที่แท่นด้านล่างกันแค่ 2 ต่อสอง ปืนของ Jake ตกลงไปในลาวาแล้ว ไม่มีอะไรต้องเสีย Jake วอร์มหมัดของเขาก่อนวิ่งเข้าไปอัดคอมโบใส่ Ustanak แบบไม่กลัวเกลงจนอัดมันตกลงไปในบ่อลาวาได้สำเร็จอย่างสะใจ ทั้งคู่จึงรีบหนีออกจากที่นี่จนไปถึงลิฟต์ความเร็วสูง ที่เร็วจนทั้งค่แทบจะเกาะไม่ไหว แต่เจ้า Ustanak ที่ร่างแทบจะแหลกเหลวก็ยังตามมาเกาะลิฟต์อีก ทั้งคู่พยายามเกาะเพื่อหนีไปด้านบนแล้วใช้สิ่งของต่างๆเข้าไปอัดใว่มันจนมันเสียหลักระเด็นมาอยู่หน้าลิฟต์ ทั้งคู่พยายามเข้าไปจนถึงปืนที่ตกอยู่ตรงหน้า Ustanak ซึ่ง Sherry จับปืนขึ้นได้ก่อนแต่มือเธอสั่นเพราะความเหนื่อยล้าจนทำให้ Jake ต้องเอามือมาคอยประคองจนสามารถปล่อยกระสุนใส่ Ustanak จนตายได้ในที่สุด Jake พูดกับ Sherry ด้วยเสียงที่เหนื่อยล้าว่า ขอบคุณ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แล้วลิฟต์ก็พาทั้งคู่ออกมาจากห้องทดลองใต้น้ำได้อย่างปลอดภัย


บนเครื่องบินโดยสาร Sherry นั่งพิมพ์รายงานของเรื่องทั้งหมดอยู่บนเครื่อง ซึ่งตอนนี้วัคซีนทั้งหมดได้ถูกส่งให้ผู้ติดเชื้อจนสามารถควบคุมการระบาดของ C – Virus แล้ว พร้อมกับข้อมูลทั้งหมดของเลือด Antibodies ของ Jake Muller ที่มีสำรองไว้พอเพียงกับการรับมือกับหายนะจากไวรัสครั้งต่อไปอีกด้วย ข้อความจาก Jale ที่ส่งมาให้ทางโทรศัพท์ว่า “ คุณยังเป็นหนี้ผมอยู่อีก 50 ล้านน๊ะ “รอยยิ้มบนใบหน้าของ Sherry ก็เกิดขึ้นทันที


Jake Muller วางโทรศัพท์จากอานมอเตอร์ไซด์ที่ใดที่หนึ่งใต้เครื่องบินที่ Sherry นั่งโดยสารผ่านไป เขายิ้มและออกเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซด์คันโปรดไปตามเส้นทางที่เขาเลือกเอง และทิ้งทางเดินที่ชั่วร้ายของสายเลือด ตามที่ Wesker ผู้พ่อทำมาตลอด แบบไม่ได้คิดจะตามรอยเท้าพ่ออีกเลย



Ada Wong Campaign

Ada Wong สายลับสาวลึกลับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดของ C Virus และ Neo Umbrella ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดกันมากมาย

Jake จะรู้เธอในฐานะคนที่ปล่อยเชื้อไวรัส C จนพวกทหารรับจ้างเพื่อนของเขาคุ้มคลั่ง กลายเป็น J’avo

Leon จะรู้เธอในฐานะพยานคนสำคัญ ที่จะเข้าใกล้ Neo Umbrella

Chris จะรู้เธอในฐานะ ผู้บงการขององค์กรผู้ก่อการร้าย Neo Umbrella

ซึ่งความที่เป็นคนชอบแก้ไขมากกว่าแก้ตัว ตัวตนของเธอในตอนนี้ เธอทำงานให้ใครนั้นยังเป็นปริศนาความลับอันดำมืดอยู่


Ada ลุยเดี่ยวไม่มีคู่หู ไม่แคร์สื่อ ตายจริง เจ็บจริงแบบไม่มีใครมาเยียวยา แต่ด้วยความคล่องแคล่ว เทคนิคการลอบฆ่าชั้นเซียน และ Bow Gun ติดหัวระเบิดเป็นไม้เด็ดที่ไม่เคยทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอจางไปเลยไม่ว่าต้องสู้กับอะไร แต่เส้นทางของ Ada ที่ต้องลุยเดี่ยวนั้นจึงสุดจะยาก และต้องเอาตัวรอดทำอะไรคนเดียวแทบทั้งหมด กระสุนน้อย แรงน้อย แต่วิ่งหนีได้เร็วที่สุด


Ada Wong Chapter 1: I Spy

27 มิ.ย 2013 …..  ทะเลลึกในแถบแอตแลนติกเหนือ Ada ลอบเข้าไปยังเรือดำน้ำของ Simmons ด้วยชุดดำน้ำสุดไฮเทค เพื่อลอบเข้ามาดูความลับบางอย่างที่ซ่อนไว้ แผนการทั้งหมดที่ Simmons เคยคิดจะว่าจ้าง Ada ใน 6 เดือนที่แล้ว ก่อนที่ Simmons จะสืบจนรู้ความจริงว่า Ada ทำงานให้คนอื่นที่ไม่ใช่ Neo Umbrella อย่างที่หลายคนเข้าใจ  …


เมื่อเข้ามาถึงเรือดำน้ำแล้ว Simmons จะรู้ล่วงหน้าแล้วว่า Ada ต้องเข้ามาแต่มันก็ยังสนุกกับเล่นเกมส์กับเธอต่อไป ในพื้นที่ด้านในนั้น การเข้าไปแบบสุ่มเงียบลอบฆ่าไปที่ละคนจะเหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้ เพราะถ้ามีศัตรูคนใดเห็นและเปิดสัญญาณเตือนภัยละก็พวกมันจะเข้ามาโจมตีเรื่อยๆแบบไม่มีวันหมดเลย ลอบเข้าไปด้านในจนถึงห้องทำงานของ Simmons ที่ประตูห้องข้อมูลนั้นเข้าไม่ได้เพราะโดนล็อกด้วยรหัสรูปภาพด้านหน้าประตู ถ้าหมุนสุ่มสี่สุ่มห้าโดนไฟช็อตแน่นอน โดยต้องการหัสดังนี้

- สำรวจหัวกวางที่พนังทางขวาของประตูให้ตาของกวางเปิดออก แล้วมาสำรวจที่พนังด้านหลังของมัน จะมองผ่านไปที่รูปภาพจนเห็นรูปปลาขึ้นมา จำภาพนี้เอาไว้

-  สำรวจแท่นควบคุมทั้ง 4 อันที่มุมห้องเพื่อหมุนแค่ละอันให้เป็นภาพปลาเหมือนที่เคยเห็น แล้วเข้าไปกดรหัสก็จะเปิดประตูห้องข้อมูลได้แล้ว


เข้ามาในห้องข้อมูล Ada จะดูคำสั่งที่ Simmons จะให้เธอทำงานนี้เมื่อ 6 เดือนก่อน จนรู้ว่าเป้าหมายของมันคือจับตัว Jake Muller ชายที่มีสายเลือดพิเศษของ Albert Wesker ที่สามารถใช้เป็นเซรุ่มรักษาการต่อเชื้อจาก C – Virus ได้ จะเป็นยังไงถ้าผู้ก่อการร้ายทางชีวะภาพนั้นมีทั้งไวรัสที่แสนร้ายกาจและเซรุ่มแก้พิษอยู่ในมือ …จากนั้นสัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้นพร้อมศัตรูที่บุกเข้ามากมาย Ada มีแผนที่จะหนีออกจากที่นี่ทาง Escape Pod จากนั้นก็ลุยไปตามทางระหว่างทางเรือดำน้ำจะเกิดการระเบิดทำให้ช่วงท้ายของเรือจมลงทำให้ Ada ไม่สามารถเข้าไปถึง Escape Pod ได้แล้ว เธอจึงเปลี่ยแผนที่จะหนีน้ำขึ้นไปที่ส่วนหัวเรือเพื่อหนีออกทางตอร์ปิโดแทน เมื่อขึ้นมาจนถึงส่วนห้องยิงตอร์ปิโดจะพบว่ามันไม่มีพลังงาน จึงต้องลุยไปอีกทาง ดำน้ำในส่วนล่างลงไปกดสวิตซ์พลังงานสำรองให้ทำงาน แล้วกลับมาที่ห้องยิงตอร์ปิโดจะสามารถเปิดช่องยิงออกได้ ต้านศัตรูเอาไว้ ในขณะนั้นก็มีเสียงผู้หญิงลึกลับที่ฟังดุแล้วเหมือนกับเสียงของตัว Ada เองมากๆพยายามพูดยั่วโมโหตลอด เมื่อท่อส่งเปิดออกแล้ว ดึงตัวขึ้นไปที่ ตอร์ปิโด แล้ว Ada ก็จะหนีออกจากที่นี่ได้สำเร็จ


Ada Wong Chapter 2: Counterinte lligerce

29 มิ.ย 2013 …..  เมือง Tall Oaks อเมริกา Ada เข้ามาจนถึงเขตสุสานของโบสถ์ของเมือง Tall Oaks และเฝ้ามอง Leon และ Helena ที่กำลังเดินทางเข้ามาที่นี่ Ada จะใช้ปืนสลิงโดดเข้าไปยังสุสานชั้นใต้ดินยิงกุญแจเปิดหีบเก็บ ตราสัญญาลักษณ์ส่วนแรกมา แล้วปีนขึ้นมาด้านบนที่หน้าประตูสัญญาลักษณ์ของตระกูล Simmons เอาตราสัญญาลักษณ์ส่วนแรกใส่เข้าไปประตูส่วนทางขวาจะเปิดออก โดดลงไปที่สุสานชั้นใต้ดินที่ฝั่งห้องด้านล่างจะมีประตูล็อกอยู่และประตูลูกกรงที่ไม่มีไฟฟ้าในการเปิดอยู่

- ขึ้นไปเก็บกุญแจมาไขเข้าประตุไปจะเป็นห้องประหาร ซอมบี้มันจะเอาลังไอเทมลงไปซ่อนที่ด้านล่างแล้ว เข้าไปเก็บปืน Sniper Rifle ด้านในมา คันโยกที่แท่นเมื่อสับแล้วพื้นตรงกลางมันจะเปิดแล้วปิดกลับมาเหมือนเดิมไม่สามารถโดดลงไปได้ สังเกตดูในนี้จะศพที่ถูกแขวนคออยู่มากมาย ให้ดันแท่นคันโยกไปทางขวาให้ตรงกับศพที่แขวนอยู่ด้านบนขวาของห้อง แล้วใช้ปืนสไนเปอร์ยิงเหล็กที่แขวนศพออกให้ศพตกลงมาทับคันโยกค้างเอาไว้จนพื้นตรงกลางเปิดออกได้แล้ว

- โดดลงไปชั้นล่างเก็บ ตราสัญญาลักษณ์ส่วนที่ 2 มาแต่ก็จะออกจากห้องนี้ไม่ได้เพราะไม่มีไฟฟ้าในการเปิดประตู ดันเก้าอี้ที่มีสพนั่งอยู่ไปที่จุดที่มีไฟฟ้าช็อต 2 จุดแล้วซอมบี้จะหล่นลงมาอีกตัวใช้การถีบมันให้กระเด็นไปใส่จุดไฟฟ้าช็อตอีกจุด ไฟฟ้าก็จะเดินครบวงจรทำให้ประตูทางออกแล้วประตูลูกกรงด้านบนสามารถเปิดเข้าได้แล้ว

- ขึ้นไปสับคันโยกเปิดประตูลูกกรงด้านบน ในนั้นจะมีซอมบี้อยู่ 3 ตัวและที่ติดกับพนังอีก 1 ตัวซึ่งถ้าโดดเข้าไปน้ำหนักมันจะเกิดทำให้พื้นเปิดออกแล้วตกลงไปด้านล่าง ใช้หน้าไม้ยิงให้ซอมบี้ทั้ง 3 ตัวไปติดพนังก่อนแล้วจึงโดดเข้าไปเก็บ ตราสัญญาลักษณ์ส่วนที่ 3 มาได้


เมื่อได้ครบแล้วก็กลับขึ้นไปเอาตราใส่ที่ ประตูสัญญาลักษณ์ของตระกูล Simmons เปิดเข้าไปด้านใน จะเห็น Leon และ Helena กำลังมา ในขณะคุยกันอยู่ Deborah ก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนร่างไปทีละนิดจนลูกดอกของหน้าไม้ของ Ada ก็พุ่งเข้ามาเจาะหัวเธอจนล้มไป ทันทีที่ Ada Wong ปรากฏตัวขึ้นมา Leon ก็เหมือนกับเห็นผีขึ้นมาทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว Deborah กลายร่างจนสำเร็จและเข้าโจมตีใส่ทุกคนทันที Boss – Deborah เธอจะบินขึ้นไปเกาะที่สูงแล้วโจมตีลงมา ให้ใช้ Sniper เล็งยิงเธอจนตกลงมายิงซ้ำจนเธอหยุดนิ่งแล้วรีบเข้าไปกดโจมตีที่ร่างของเธอเพื่อทำคอมโบต่อเลย สู้ไปซักพักเธอจะหนีไปทุกคนจะพากันลงไปส่วนร่างของถ้ำต่อ ซึ่ง Ada จะมอบแหวนให้กับ Leon ไว้ด้วย  ระหว่างทาง Deborah ก็เข้ามาโจมตีอีกครั้งจน  Leon กระเด็นไปอีกฝั่ง ส่วน Helena และ Ada จะตกลงไปในรถรางพอดี ยิงคุ้มกันให้ Leon จนเข้าลงมาจนถึงรถราง ระหว่างทาง Deborah จะเข้าโจมตีเข้ามาในรถรางอักครั้ง ยิงจัดการ Deborah สลับกับคอยยิงระเบิดที่ขวางเส้นทางด้วยพยายามจัดการเธอให้ได้จนเธอจะตกลงไปในเหว ซึ่ง Helena จะรีบมาดึงตัว Deborah เอาไว้ได้ทัน แต่เธอเห็นสภาพน้องสาวที่กลายร่างจนควบคุมไม่ได้จนกลายเป็นปีศาจไวรัสไปแล้ว Helena จึงจำใจต้องปล่อยให้ Deborah ตกลงไปตายเพื่อพ้นทุกข์ จากนั้น Ada ก็จะแยกทางไปต่อ ลงลิฟท์ลงมาที่โรงงานลับใต้ดินที่เต็มไปด้วยซอมบี้อ้วน จัดการให้หมดแล้วเข้าไปเก็บกุญแจมาไขประตูเข้าด้านใน ลุยเข้าไปจนถึงห้องหม้อแปลงไฟฟ้าที่ Leon เปิดเส้นทางเอาไว้ให้แล้ว เข้าไปจนถึงห้องทดลองด้านใน


Ada จะได้ดูม้วน VDO ที่เขียนหน้าตลับไว้ว่า Happy Birthday Ada Wong เมื่อดูก็จะพบร่างๆนึงกำลังฝักออกมาจากเปลือก Cocoon Chrysaild ปรากฏร่างของหญิงสาวที่หน้าเหมือน Ada ออกมา กับชายที่ส่วมแหวนประจำตรกูลที่มือของซ้ายที่กำลังเฝ้ามองการกำเนิดใหม่ของ C – Virus Project Ada อยู่อย่างใกล้ชิด หลังดูจบ Ada ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรแถมยังพูดติดตลกอีกว่า ตอนนี้คงไม่ได้มีชั้นคนเดียวแล้วที่ Leon ต้องการ  Simmons ติดต่อเข้ามาพูดจาเยาะเย้ย แต่ Ada ก็ตอบไปด้วยความใจเย็นตามสไตร์เธอว่า ถ้าไม่ได้เข้าใจผิดคนทีสวมแหวนใน VDO นั่นคือ Simmons ใช่หรือเปล่า เท่านี้ก็เป็นการยืนยันได้แล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลัง Neo Umbrella ทำให้เกิดการแพร์ระบาดของ C – Virus และแผนที่จะจับตัว Jake มาแล้วเอาเลือดมาทำเซรุ่มแก้พิษและนำไปช่วยเหลือผู้คนในฐานะคนของรัฐบาล เท่านี้ Simmons ก็จะได้ทุกอย่างอยู่ในกำมืออย่างชอบธรรมแล้ว แล้ว  การประเมินของ Ada เล่นทำให้ Simmons เงียบไปพักใหญ่ก่อนที่เสียงของ Ada อีกคนที่ฟังการสนทนาอยู่ก็พูดแทรกขึ้นว่า “ โดยที่โลกทั้งโลกจะโทษที่เธอคนเดียว เอด้า “ Ada ติดตั้งระเบิดเวลาอย่างใจเย็นแล้วบอกว่า ถ้าเแกอยากเล่นเกมก็จะได้เล่น เล่นกับ Ada ตัวจริงแล้วจะรู้ว่าจะเป็นยังไง ก่อนที่จะวางระเบิดทุกอย่างเป็นจุล

 ก่อนที่เธอจะแจ้งไปยังใครคนนึงว่าตอนนี้มี  Ada  2 คน ให้เตรียมรับมือเอาไว้ด้วย


 Ada Wong Chapter 3: This take me back

30 มิ.ย 3013 ….  Ada เข้ามาในเมืองช่วงที่ทีมของ Chris กำลังออกไล่ล่า Ada อีกคนไปที่เรือบรรทุกเครื่องบิน ลึยไปตามถนน Bin จะพบกับ B.O.W เลื่อยโหดออกมาวิ่งหนีมันเข้าด้านในก่อน จัดการซอมบี้ให้หมดแล้วเก็บกุญแจจากศพไขประตูด้านในไป ระหว่างทาง Ada จะได้เจอกับ B.O.W เลื่อยโหด อีกรอบและต้องสู้กับมันบนหลังคารถเมล์ ที่อาจจะแคบแต่ถ้ายืนตรงท้ายรถจะสามารถโหนตัวหลบมันมาท้ายรถได้ด้วย ลงมาสู้กับมันพื้นอีกรอบทิ้งระยะห่างมันหน่อยก็จะมีช่องวางพอจะส่องยิงมันได้ไม่ยากนัก หลังจากจัดการมันได้แล้วดึงตัวไปกับรถไฟที่วิ่งมาเพื่อเดินทางต่อ ได้นั่งพักไม่กี่อึดใจก็ต้องเดินทางต่อแล้ว Ada ปีนขึ้นบนหลังคารถไฟก็จะเห็นเครื่องบิโดยสารกำลังตก จากนั้นดึงตัวเข้าไปยังซอยแห่งหนึ่งแล้วขึ้นไปตามตึกจนถึงดาดฟ้า Ada จะเห็น Jake และ Sherry กำลังสู้กับ เจ้า B.O.W เลื่อยโหด เลื่อยโหดอยู่ ใช้สไนเปอร์ยิงช่วยพวก Jake และ Sherry จนสามารถช่วย Sherry เอาไว้ได้ ที่ยอดตึก Ada จะเห็น Ada อีกคนขับรถหนีการไล่ล่าของ Chris มุ่งหน้าไปที่ท่าเรือใหญ่ Ada จึงใช้เจ็ทสกีที่จอดอยู่ขี่ตามไปทันที


Ada Wong Chapter 4: Ada’s Demise

Ada ขี่ เจ็ทสกี ตาม Ada อีกคนมาจนถึงเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ ลอบเข้าไปด้านในจนถึงประตูรหัสที่ต้องการใช้ Pass code 3 อัน ซึ่งทั้ง 3 อันจะอยู่ในตัวพวก B.O.W ต่างๆที่เป็นจุดแดงในเรือนี้ ตามไปจัดการมันแล้วเก็บมาให้ครบ อย่าลืมแวะเก็บปืน Bear Commander ในห้องมาด้วย ในเรือจะค่อนข้างซับซ้อนและมีพวกศัตรูออกมาตลอดทางด้วย หลังจากเก็บมาครบแล้วนำกลับมาใส่ประตูรหัส เปิดเข้าไปด้านในตามทางจนพบกับทีมของ Chris กำลังตาม Ada ตัวปลอมพอดี Ada จึงรีบหนีเข้าไปด้านในทันที ผ่านออกมานอกเรือพยายามหลบไฟ Spotlight เอาไว้เพราะถ้าโดนพบศัตรูจะออกมามากมายเลย ลอบเข้าไปตามท่อระบายอากาศด้านบนจนถึงทางขึ้นดาดฟ้า จัดการศัตรูแล้วขึ้นไปจนถึงห้องพักของ Simmons ที่ด้านบน Ada จะเข้าไปค้นจะเจอข้อมูลการสร้าง Project Ada ที่เธอต้องตกใจเพราะ ร่างที่ใช้ทำ Ada อีกคนก็คือร่างของ Carla เมียของ Simmons นั่นเอง จากนั้นออกมานอกเรือจะพบ Ada อีกคนโดนยิงจนตกลงไปกระแทกพื้นด้านล่าง Ada จึงรีบตามลงไปดูที่ศพด้านล่าง เธอเข้ามาตรวจสอบศพและบ่นด้วยความสงสาร Carla ที่โดนทำแบบนี้


แต่ร่างของ Carla กลับยังไม่ตาย เธอกำลังเข้าสู่การฝักตัวเพื่อเกิดใหม่ Carla ยิ่งโกรธแค้นมากขึ้นเธอบอกว่า เธอเป็น Ada ตัวจริงและตัวจริงอย่างเธอไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร Ada มองดูการเปลี่ยนแปลงได้ไม่นานก็ต้องรีบหนีเข้าไปในเรือเพราะร่างของ Carla เริ่มที่จะขยายขนาดใหญ่โตเป็นเมือกเหนียวขนาดมหึมาแล้ว ร่างของ Carla ขยายจนบีบเรือทั้งเรือเข้ามาด้านในได้ทั่วไปหมด พยายามหนีเข้าด้านในเมื่อโดนพุ่งเข้ามาโจมตีก็ยิงถังไนโตรเจนเหลวทำลายมัน รีบหนีเข้ามาถึงลิฟต์ด้านในจะพบกับหัวของ Carla ที่มาดักปิดทางเอาไว้ ยิงที่ตามันทั้ง 2 ข้างก่อนแล้วก็ยิงแบบต่อเนื่องไปที่หัวทันเรื่อยๆจนกว่ามันจะเป็นรูโบ๋เห็นถังไนโตรเจนเหลวที่อยู่ด้านหลังจัดการยิงมันให้ระเบิดก็จะกำจัดมันได้ ขึ้นลิฟต์ไปด้านบนจนถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ Ada จะใช้ขับหนีออกจากที่นี่ในขณะที่ทีมของ Chris ก็ขังเครื่องบิไอพ่นออกจากที่นี่เช่นเดียวกัน


Ada Wong Chapter 5:What’s Next

1 กรกฎาคม 2013 ….  เมือง Tatchi ประเทศจีน  Ada ขับเฮลิคอปเตอร์ดูความโกลาหลของเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟกับฝูงซอมบี้มากมายจนพบ Leon และ Helena กำลังโดนฝูงซอมบี้ล้อมอยู่ ใช้ปืนกลของ ฮ.ช่วยยิงจัดการพวกมันให้หมดจน Leon เดินทางต่อได้ จากนั้นเมื่อบินต่อไปก็จะพบ Simmons ที่กลายร่างเป็นไดโนเสาร์เข้าโจมตีใส่

Leon และ Helena ช่วยยิงถล่มใส่ Simmons จนมันล้มลง จากนั้นบินขึ้นไปตามยอดตึกจะพบกลุ่มชาวบ้านมากมายที่กำลังโดนซอมบี้ทำร้าย พยายายิงช่วยพวกเขาทุกจุดจนเกิดการระเบิดทำให้ยอดเสาสายล่อฟ้าหักลงไปปักที่พื้นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จัดการยิงทำลายฝูงวอมบี้ที่ลานจอดให้หมดแล้ว Ada จะเอาเฮลิคอปเตอร์ลงจอดทิ้งไว้ให้ Leon พร้อมปืน RPG กับข้อมูลลับทั้งหมด ก่อที่จะลุยเข้าไปที่ตึกด้านใน จนพบ Simmons ที่กำลังปีนตึกไล่ล่า Leon และ Helena จากจุดที่ลิฟต์ถูกทำลาย Ada จึงพยายามยิงช่วยจนตกลงไปเผชิญหน้ากับ Simmons ที่เครน พยายามสู้กับมันไปเรื่อยๆแต่ Ada ก็จะโดนซัดจนสลบในขณะที่ Leon ก็จะโดดมาประคองและช่วยเธอเอาไว้ เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วก็ลุกขึ้นมาสู้ไปพร้อมๆกัน Leon , Ada และ Helena ร่วมมือกันสู้ Simmons ร่วมกันจนสามารถทำให้มันร่วงลงไปในกองไฟได้สำเร็จ ในขณะที่ Ada กำลังจะหนีอีกครั้ง Leon พยายามตะโกนถามเธอว่า เธอเป็นอะไรกันแน่ และทำไมถึงช่วยพวกของ Leon ตลอด แต่ Ada ส่งข้อความมาบอกแค่ว่า ตอนนี้ไม่มีเวลาจะคุยด้วยได้นาน แต่ก็ได้ทิ้งของขวัญชิ้นสำคัญไว้ให้บนดาดฟ้าแล้ว


Ada เข้าไปจนถึงห้องข้อมูลหลักของ Neo Umbrella ในตึกจะพบข้อมูลของ Carla ที่ดูเหมือจะร้ายพอๆกับ Ada ตัวจริงเลย เธอเองก็มีความคิดที่จะเป็นใหญ่ไม่ต่างอะไรกับ Simmons เธอจึงหักหลังและแอบทำการวิจัย Project อักอันซ้อนขึ้นมา ในเมือตัวเธอถูก Simmons ทำร้ายจนโดนจับมาทดลองเธอเองก้นำยีนของ Simmons มาสร้างเป็น B.O.W ตัวใหม่บ้างเป็นการตอบแทนความแค้น หลังจากดูจบ Ada ก็มองไปที่รูปของ Simmons และ Carla ที่กำลังลุกไหม้ด้วยความเศร้า เะอเดินเข้าไปในห้องทดลองก็จะพบ B.O.W ตัวใหม่ที่วากำลังเริ่มฝักตัวออกมาแล้ว Ada บอกกับสิ่งนั้นว่า ยิ่งเราห่างไกลจากความเห็นใจกันมากเท่าไหร์ เราก็ยิ่งห่างไกลมนุษย์ธรรมมากเท่านั้น ก่อนจะยิงร่างทดลองนั้นและทุกอย่างในห้องทดลองนี้จนระเบิดไหม้เป็นจุลไปทั้งหมดทันที


ในประเทศในตะวันออกกลางที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง เด็กน้อยกำลังหลบซ่อนในกระท่อมด้วยความหวาดกลัวกับเหล่า B.O.W ที่กำลังย่างกรายมาถึง เด็กน้อยพบชายคนนึงที่สวมผ้าคุมแอบอยู่ในบ้าน เขาบอกกับเด็กน้อยว่า ชั้นแน่ใจว่าเราอาจจะตกลงกันได้น๊ะ เด็กน้อยยื่นแอปเปิลที่มีเพียงลูกเดียวให้เขาเป็นค่างจ้างที่จะให้ช่วย และบอกว่าคุณสัญญาได้มั๊ยว่าจะช่วยผม  ชายในผ้าคลุมหัวเราะเบาๆก่อนเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับ B.O.W ที่ด้านนอก ผ้าคลุมถูกสบัดหลุดออกเผยให้เห็นหน้า Jake Muller ที่พร้อมรบเต็มที่ Jake บอกกับเด็กไปว่า ก็ยุติธรรมดีไอ้หนู ก็ยุติธรรมดี ก่อนที่จะกัด แอปเปิล ไปยิงไปอย่างเมามัน
จุดประสงค์ใหม่ของชะตากกรมแห่งผู้สืบทอดสายเลือด Albert Wesker ได้เริ่มต้นแล้ว
Resident evil 6




Campaign Skill



Firepower Lv. 1  -   เพิ่มพลังโจมตีของปืนทุกชนิด

Firepower Lv. 2   – เพิ่มพลังโจมตีของปืนทุกชนิดมากขึ้น

Firepower Lv. 3   -  เพิ่มพลังโจมตีของปืนทุกชนิดสูงสุด.



Melee Lv. 1  -  เพิ่มพลังการโจมตีด้วยมือเปล่า .

Melee Lv. 2   -  เพิ่มพลังการโจมตีด้วยมือเปล่า มากขึ้น

Melee Lv. 3  -  เพิ่มพลังการโจมตีด้วยมือเปล่าสูงสุดและเพิ่มคอมโบ FALCON PUNCH.



Defense Lv. 1  - เพิ่มพลังป้องกัน

 Defense Lv. 2  -  เพิ่มพลังป้องกันมากขึ้น

Defense Lv. 3  -  เพิ่มพลังป้องกันสูงสุด



Lock-On Lv. 1 – ลดการแกว่งไปมาของมือในตอนเล็งยิงและเพิ่มระยะในการอาวุธปืน

Lock-On Lv. 2 -  ลดการแกว่งไปมาของมือในตอนเล็งยิงมากขึ้นทำให้เล็งเป้ามหายได้แม่นยำมากขึ้น

Lock-On Lv. 3 - เพิ่มความแม่นยำของการยิงปืนสูงสุด



Rock Steady Lv. 1 – เพิ่มทักษะการใช้อาวุธปืน

Rock Steady Lv. 2  - เพิ่มทักษะการใช้อาวุธปืนและความแม่นยำมากขึ้น.

Rock Steady Lv. 3  - เพิ่มทักษะการใช้อาวุธปืนระดับสูงสุด ทำให้สามารถใช้ระบบ Semi Auto Shot เล็งยิงเป้าตามตัวศัตรูแบบอัตโนมัติได้



Critical Hit Lv. 1 -  เพิ่มอัตราการเกิด Critical Hit แบบนัดเดียวจอด

Critical Hit Lv. 2  - เพิ่มอัตราการเกิด Critical Hit และความรุนแรงของ Head Shot มากขึ้น

Critical Hit Lv. 3  - เพิ่มอัตราการเกิด Critical Hit และความรุนแรงของ Head Shot ระดับสูงสุด



Piercing Hit Lv. 1  - เพิ่มระยะการยิงของอาวุธปืน

Piercing Hit Lv. 2  -  เพิ่มระยะการยิงของอาวุธปืนมากขึ้น

Piercing Hit Lv. 3  -  เพิ่มระยะการยิงของอาวุธปืนระดับสูงสุด



J'avo Killer Lv. 1 – เพิ่มความเสียหายกับศัตรูประเภท J'avo

J'avo Killer Lv. 2  - เพิ่มความเสียหายกับศัตรูประเภท J'avo มากขึ้น

J'avo Killer Lv. 3 -  เพิ่มความเสียหายกับศัตรูประเภท J'avo สูงสุด



Zombie Killer Lv. 1 - เพิ่มความเสียหายกับศัตรูประเภท Zombie

Zombie Killer Lv. 2 – เพิ่มความเสียหายกับศัตรูประเภท Zombie มากขึ้น

Zombie Killer Lv. 3 –  เพิ่มความเสียหายกับศัตรูประเภท Zombie สูงสุด



Eagle Eye – เพิ่มความแม่นยำให้กับการใช้ปืนประเภท sniper rifles.



Quick Reload - เพิ่มความเร็วในการเติมกระสุนให้เร็วขึ้น



Last Shot – เพิ่มความรุนแรงให้กับกระสุนนัดสุดท้ายที่ออกจากแม็กในทุกๆการยิง



Shooting Wild  - เพิ่มความรุนแรงในการยิงปืนสูงสุด แต่ไม่มีเป้าเล็งขึ้นให้



Combat Gauge Boost Lv. 1  -  เพิ่ม Action gauge อีก  3 บล็อก

Combat Gauge Boost Lv. 2  -  เพิ่ม Action gauge เต็ม 10 บล็อก



Recovery Lv. 1  - เพิ่มความเร็วในการใช้ไอเทมเติมพลังในช่วงใกล้ตาย

Recovery Lv. 2 -  เพิ่มความเร็วในการใช้ไอเทมเติมพลังในช่วงใกล้ตายมากขึ้น

Recovery Lv. 3 – เพิ่มความเร็วในการใช้ไอเทมเติมพลังในช่วงใกล้ตายสูงสุด



Team Up  - เพิ่มความแข็งแกร่งเมื่อเพื่อนร่วมทีมในขณะที่ร่วมสู้อยู่ใกล้กันให้มากขึ้น



Field Medic Lv. 1  -  เพิ่มความเร็วของเพื่อนร่วมทีมในการเข้าช่วยเหลือเวลาที่เรานอนรอความตาย

Field Medic Lv. 2  - เพิ่มความเร็วของเพื่อนร่วมทีมในการเข้าช่วยเหลือเวลาที่เรานอนรอความตายมากขึ้น

Field Medic Lv. 3  - เพิ่มความเร็วของเพื่อนร่วมทีมในการเข้าช่วยเหลือเวลาที่เรานอนรอความตายสูงสุด



Lone Wolf  - เพิ่มความสามารถในการเอาตัวรอดเวลาสู้คนเดียวหรือตอนที่อยู่ห่างจากคู่ให้มากขึ้น


AR Ammo Pick-up เพิ่มจำนวนกระสุนของปืน AR ให้มากขึ้น

Shotgun Shell Pick-up เพิ่มจำนวนกระสุนของปืน Shotgun ให้มากขึ้น

Magnum Ammo Pick-up เพิ่มจำนวนกระสุนของปืน Magnum ให้มากขึ้น

Rifle Ammo Pick-up เพิ่มจำนวนกระสุนของปืน Rifle ให้มากขึ้น

Grenade Pick-up เพิ่มจำนวนกระสุนของปืน Grenade Launcher ให้มากขึ้น

Arrow Pick-up เพิ่มจำนวนลูกดอกของหน้าไม้ ให้มากขึ้น.



Skill ที่ได้หลังจบเกมส์

Infinite Handgun – ราคา 79,000 - ปืน Handgun กระสุนไม่มีวันหมด

Infinite Shotgun - ราคา 89,000 - ปืน Shotgun กระสุนไม่มีวันหมด

Infinite Magnum – ราคา 99,000 - ปืน Magnum กระสุนไม่มีวันหมด

Infinite Sniper Rifle - ราคา 79,000 - ปืน Sniper Rifle กระสุนไม่มีวันหมด

Infinite Machine Pistol - ราคา  89,000 - ปืน Machine Pistol กระสุนไม่มีวันหมด.

Infinite Assault Rifle - ราคา  89,000 - ปืน Assault Rifle กระสุนไม่มีวันหมด

Infinite Grenade Launcher – ราคา 99,000 -  ปืน Grenade Launcher กระสุนไม่มีวันหมด

Infinite Crossbow - ราคา 79,000 -  หน้าไม้ Crossbow  ลูกดอกไม่มีวันหมด





Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Best Buy Printable Coupons